UAC โรงไฟฟ้า “แม่แตง” คว้ารางวัลดีเด่น

HoonSmart.com>>UAC ปลื้มโรงไฟฟ้าชีวภาพแม่แตง คว้ารางวัลดีเด่น Thailand Energy Awards 2019 ประเภทโครงการที่เชื่อมโยงกับระบบสายส่งไฟฟ้า (On-Grid) ตอกย้ำศักยภาพการดำเนินธุรกิจสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนในระยะยาว

นายชัชพล ประสพโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล  (UAC)  ผู้ประกอบธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมัน โรงกลั่น ปิโตรเคมี และธุรกิจโรงไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เปิดเผยว่า โรงไฟฟ้าชีวภาพจากพืชพลังงาน แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ของ UAC ได้รับรางวัลดีเด่น ด้านพลังงานทดแทนประเภทโครงการที่เชื่อมโยงกับระบบสายส่งไฟฟ้า (On-Grid)  จากการประกวด Thailand Energy Awards 2019 ของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน

ตอกย้ำความสำเร็จของบริษัทฯ ภายหลังจากดำเนินการตามแผน กลยุทธ์พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง

ชัชพล ประสพโชค

สำหรับรางวัล Thailand Energy Awards พิจารณาจากโครงการเป็นตัวอย่างที่ดี ด้านส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานทดแทน และสร้างความมั่นคงให้กับพลังงานของประเทศ คำนึงถึงประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมเป็นสำคัญ และสามารถนำโครงการไปต่อยอดพัฒนาเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าต่อระบบเศรษฐกิจในระยะยาว

โรงงานผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพจากพืชพลังงานแม่แตง เริ่มโครงการเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2558 และเริ่มเดินระบบจนเข้าสู่สภาวะเสถียรและดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลา 3 ปี กำลังผลิต 1.483 เมกะวัตต์ ในปี 2561 โครงการใช้วัตถุดิบประมาณ 28,000 ตัน สร้างรายได้ให้แก่โรงไฟฟ้าฯ มากกว่า 50 ล้านบาทต่อปี เทียบเท่าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณปีละ 4,712 ตันคาร์บอนไดออกไซด์

ดังนั้น โครงการโรงงานผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพจากพืชพลังงาน จึงสามารถทำร่วมกับชุมชนได้ทุกพื้นที่ในประเทศ

นายชัชพล กล่าวว่า บริษัทฯ มีแนวทางพัฒนาผลิตพลังงานทดแทน เพื่อลดการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ โดยสนับสนุนปลูกหญ้าเนเปียร์ ซึ่งเป็นพืชพลังงานที่โตเร็ว ให้ผลผลิตต่อไร่สูง ทนแล้งให้ผลผลิตตลอดปี

ทั้งนี้บริษัทฯ ซื้อวัตถุดิบจากเกษตรกรในพื้นที่ปีละกว่า 15 ล้านบาท เป็นการช่วยให้เงินหมุนเวียนในชุมชน และยังรับต้นข้าวโพด ซึ่งเป็นพืชพลังงานอีกชนิดหนึ่ง ที่สามารถนำมาผลิตก๊าซชีวภาพได้ และยังมีส่วนช่วยลดการเผาไหม้ที่ทำให้เกิดหมอกควันพิษ หรือ PM 2.5 ในพื้นที่อีกด้วย

กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ 2,700 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบจากปีก่อน ขณะที่ EBITDA คาดว่าไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท และมั่นใจว่า อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ในปี 2562 จะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.2 เท่า จาก ณ สิ้นไตรมาส 1/2562 มีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 1.35 เท่า ซึ่งสะท้อนความแข็งแกร่งทางการเงิน และเชื่อมั่นว่ายังเป็นการเพิ่มโอกาสการลงทุนต่อเนื่องในอนาคต