หุ้นขึ้นต่อ แนวต้านใหญ่ 1,740 พลังงานเด่น เน้น PTTEP-BBL

HoonSmart.com>>บล.เอเซียพลัส คาดสัปดาห์หน้าไปต่อ  มี Window Dressing  ดัชนีไม่แรง แนวต้านสำคัญ 1,750 – 1,740   หุ้นมาร์เก็ตแคปสูงตกเป็นเป้าซื้อของต่างชาติ สถาบันในประเทศ พลังงานโดดเด่น แบงก์กรุงเทพ  ถือโอกาสคัดออกตัวที่ราคาขึ้นมาเกือบเต็มมูลค่า  ขาย WHA  สลับเข้า AMATA  แทน

บริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส (ASP) คาดแนวโน้มตลาดหุ้นในสัปดาห์ที่จะถึง (24-28 มิ.ย 2562) ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง บริเวณ 1750 – 1740 จุด น่าจะทำหน้าที่เป็นแนวต้านสำคัญ ซึ่งเป็นบริเวณที่ให้ค่า พี/อี (อัตราส่วนราคาต่อกำไร) สิ้นปีเกือบ 17 เท่า

สัปดาห์นี้ตลาดยังได้รับแรงเหวี่ยงจากการส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ชัดเจนขึ้นของเฟด ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น  และน่าจะเกิด Window Dressing ฝ่ายวิจัย คงน้ำหนักการลงทุนในพอร์ตหุ้นไทยไว้ที่ 40% โดยปรับกลยุทธ์เลือกหุ้นในกลุ่มพลังงานมากขึ้น และปรับหุ้นที่ราคาใกล้เต็มมูลค่ายุติธรรมหรือ Fair Value หรือเหลือ Upside ไม่มาก ออก อย่าง WHA และน่าหุ้น AMATA ที่ Laggard เข้ามาแทน

บล.เอเซียพลัสคาดหวังแรงซื้อที่จะไหลเข้ามาทั้งจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ และ นักลงทุนต่างชาติ แต่อัตราการปรับตัวขึ้นของดัชนีน่าจะช้าลงเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา น่าจะมีแรงต้านในเรื่องของ Valuation หลังจากระดับพี/อี ที่ระดับดัชนีปัจจุบันสูงกว่าเป้าหมายที่ 16.45 เท่า

สำหรับเป้าหมายซื้ออยู่ที่หุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังอิหร่านยิงอากาศยานไร้คนขับของสหรัฐฯ ตก โดดเด่นที่สุดน่าจะเป็นกลุ่มน้ำมัน เลือก PTTEP ให้มูลค่าเหมาะสม 166 บาท อีกทั้งยังได้ประโยชน์ทางด้านภาษีจากสถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ยังน่าจะเป็นเป้าหมายของการท่า Window Dressing ราคาหุ้นปัจจุบันให้อัตราผลตอบแทนปันผลราว 3.6% ต่อปี

อีกบริษัทหนึ่งเลือก BBL มูลค่าเหมาะสม 227 บาท ธนาคารกรุงเทพ เป็นหุ้นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่โดดเด่นในเรื่อง Valuation ที่ราคายังต่่ากว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชีกว่า 10% ให้อัตราผลตอบแทนปันผลเกือบ 4% และน่าจะอยู่ในล่าดับ ต้นๆ ที่จะได้ประโยชน์จากวฎัจักรการลงทุนภาคเอกชนรอบใหม่ คาดก่าไรสุทธิปี 2562-2563 เติบโต 4.9% และ 7.6%

ส่วนตลาดหุ้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันฟื้นตัวแรง รวมถึงประเด็นสงครามการค้าผ่อนคลายช่วงสั้น หนุนตลาดหุ้นโลกเพิ่มขึ้นร้อนแรง 2.17% เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทย (มีสัดส่วนหุ้นน้ำมันสูง) เพิ่มขึ้นถึง 2.83% เหนือ 1,700 จุดอีกครั้ง  ปิดที่ระดับ 1,717 จุด