บลจ.วี ออกกองหุ้นโลก ชูจัดพอร์ตเชิงรุกลดเสี่ยง ตั้งเป้า 5%

HoonSmart.com>> บลจ.วี ชูจัดพอร์ตเชิงรุก ลดความเสี่ยง เปิดขายกองทุน “WE-GA5M” กระจายลงทุนหุ้นทั่วโลก กลยุทธ์จัดพอร์ตลงทุนเชิงรุก เลือกหุ้นพื้นฐานดีระดับราคาน่าสนใจ มองปัจจัยกดดันการลงทุนเริ่มคลี่คลายและนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ปัจจัยหนุนหุ้นเทคโนโลยี, กลุ่มอุตสาหกรรม, กลุ่มธนาคารและกลุ่มเฮลท์แคร์ IPO ตั้งแต่ 2-10 ก.ค.นี้ ตั้งเป้าเลิกโครงการ 5% ใน 5 เดือน

อิศรา พุฒตาลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน ,งามนภา ธวัชโชคทวี กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ และน.ส.นิตยา เลิศแสงเพชร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์และช่องทางบริการ บลจ. วี จำกัด

น.ส.งามนภา ธวัชโชคทวี” กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วี จำกัด เปิดเผยว่า ด้วยภาวะความผันผวนของตลาดหุ้นทั่วโลก ประกอบกับข้อมูลข่าวสารที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละวัน ส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนของนักลงทุน ทำให้การวิเคราะห์แนวโน้มตลาดและเลือกลงทุนในหลักทรัพย์อาจยากขึ้นสำหรับผู้ลงทุนทั่วไป บลจ.วี จึงขอแนะนำการจัดพอร์ตลงทุนแบบเชิงรุกด้วยการกระจายการลงทุน(Asset Allocation) โดยผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญกับกองทุนเปิด วี โกลบอล แอลโลเคชั่น 5M (WE-GA5M) เปิดเสนอขาย IPO ระหว่างวันที่ 2-10 ก.ค. 2562

“บลจ.วี เล็งเห็นว่า การจัดพอร์ตการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงที่ภาวะตลาดมีความผันผวนจากปัจจัยกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจและการลงทุนที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนหน้าและยังไม่มีความชัดเจน การจัดพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนได้”น.ส.งามนภา กล่าว

น.ส.นิตยา เลิศแสงเพชร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์และช่องทางบริการ บลจ.วี กล่าวว่า หลายๆ ปัจจัยการลงทุนข้างหน้ายังมีความไม่แน่นอนและมีความผันผวนสูงขึ้นทั้งในด้านของราคาสินทรัพย์และสกุลเงินต่างๆ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาปัจจัยด้านสงครามการค้าระหว่างประเทศทั้งสหรัฐฯกับจีน , อินเดียและยุโรปได้ส่งผลกระทบการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะกับประเทศที่มีโครงสร้างเศรษฐกิจจากการส่งออกสูงอย่างกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยเรื่องความตรึงเครียดในตะวันออกกกลางหลังสหรัฐฯคว่ำบาตรอิหร่าน รวมไปถึงความไม่ชัดเจนเรื่องถอนตัวจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit)

ทั้งนี้ ด้วยหลายปัจจัยดังกล่าวที่เกิดขึ้นและข่าวสารข้อมูลที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจและการลงทุนที่เปลี่ยนแปลง แต่ละวันมีผลทำให้เกิดความผันผวนของตลาดหุ้นและตลาดเงินอยู่บ่อยครั้ง การจัดพอร์ตการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ที่เหมาะสมกับสภาวะการลงทุนจึงเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างผลตอบแทนและลดความเสี่ยงจากตลาด สะท้อนจากการโพสต์ทวิตเตอร์ของประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ แต่ละครั้งที่ทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลง ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเดียวกัน โดยเฉพาะในยุคที่ข่าวสารจำนวนมากสามารถสื่อถึงกันอย่างรวดเร็ว การกลั่นกรองและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของผู้จัดการกองทุน และจัดพอร์ตเพื่อกระจายความเสี่ยง และคัดเลือกหลักทรัพย์ที่มีการเติบโตที่ดีจะสามารถช่วยให้การลงทุนบรรลุเป้าหมายได้

กองทุนเปิด วี โกลบอล แอลโลเคชั่น 5M (WE-GA5M) มีเป้าหมายการเลิกโครงการ 5% ในระยะเวลา 5 เดือน เป็นกองทุน Fund of Fund เน้นลงทุนในหุ้นเทคโนโลยี , หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงหุ้นกลุ่มธนาคาร ทั่วโลกที่จะได้ประโยชน์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น และหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลงมาต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานมากจนมองว่าเป็นโอกาสในการเข้าไปลงทุน ซึ่งคาดว่าจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลดีจากแนวโน้มการผ่อนคลายความรุนแรงลงของสงครามการค้าที่คาดว่าจะมีโอกาสการเจรจาจนมีข้อยุติได้ และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำในระยะหนึ่ง

ทั้งนี้ กองทุน WE-GA5M จัดพอร์ตแบบ Active Allocation เนื่องจากมองว่า ความผันผวนของราคาจากภาวะการลงทุนในปัจจุบันที่มีอยู่สูง การติดตามปัจจัยที่มีผลกระทบและปรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญซึ่งช่วยให้การลงทุนเป็นไปตามเป้าหมายได้ดีกว่าการซื้อแล้วถือ (buy and hold) ซึ่งหากภาวะการลงทุนเปลี่ยนแปลงไปจากการคาดการณ์กองทุนสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์โดยไม่มีข้อจำกัดด้านการลงทุน

กองทุน WE-GA5M ตั้งเป้าหมายเลิกโครงการ 5% ใน 5 เดือน โดยจะเลิกกองทุนตามเป้าหมายเมื่อมีมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ผ่านระดับ 10.53 บาท ต่อหน่วยและ NAV รับซื้อคืนหน่วยลงทุนขั้นต่ำ 10.50 บาทต่อหน่วย โดยบริษัทจะดำเนินการสับเปลี่ยนเข้ากองทุนเปิด วี มันนี่ มาร์เก็ต ภายใน 5 วันทำการนับตั้งแต่วันถัดจากวันคำนวณราคารับซื้อคืนหน่วยอัตโนมัติ โดยมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท

ด้านนายอิศรา พุฒตาลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.วี กล่าวว่า บลจ.วี มองว่าปัจจัยความรุนแรงของสงครามการค้าที่กดดันการลงทุนในตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายลงและการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพื่อกระตุ้นของเศรษฐกิจ เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นบางกลุ่ม เช่น กลุ่มหุ้นเทคโนโลยี , กลุ่มอุตสาหกรรม , กลุ่มธนาคารรวมถึงหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ ที่มีพื้นฐานดี ขณะเดียวกันการเจรจาการค้าที่ได้ผลออกมาในเชิงบวก ส่งผลบวกต่อหุ้นตลาดเกิดใหม่ที่ได้ประโยชน์จากการส่งออกที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนซึ่งเมื่อพิจารณาระดับราคาหุ้นพบว่าราคาอยู่ในระดับต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน เป็นโอกาสที่น่าลงทุน

ปัจจุบันเครื่องมือการลงทุนมีความหลากหลายขึ้น โดยเฉพาะกองทุนอีทีเอฟในต่างประเทศ ซึ่งมีสภาพคล่องสูงและมีหลักทรัพย์กลุ่มเฉพาะเจาะจงให้เลือกลงทุนได้มาก ทำให้เป็นช่องทางการลงทุนที่เอื้อให้ผู้จัดการกองทุนสามารถปรับน้ำหนักการลงทุนและซื้อขายหลักทรัพย์ให้เหมาะกับความผันผวนของตลาดได้ดี

ทั้งนี้ ในช่วงแรกกองทุน WE-GA5M จะกระจายลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯผ่านกองทุน Technology Select Sector SPDR Fund ในสัดส่วนประมาณ 40% ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีของจีนผ่านกองทุน Invesco China Technology ETF สัดส่วนประมาณ 20% ลงทุนหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ ผ่านกองทุน Health Care Select Sector SPDR Fund สัดส่วนประมาณ 10% นอกจากนี้กองทุนยังเลือกลงทุนในหุ้นตลาดเกิดใหม่ผ่านกองทุน iShares MSCI Emerging Market ETF ประมาณ 20% และลงทุนในหุ้นอินเดีย ผ่านกองทุน iShares India 50 ETF ประมาณ 10%

ความแตกต่างของ กองทุน WE-GA5M จากกองทุนที่เน้นจัดพอร์ตการลงทุนทั่วไป คือ การจัดพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยงขณะเดียวกันจะโฟกัสกลุ่มที่มีการเติบโตจากปัจจัยพื้นฐานที่ดีและราคาปรับตัวลงมาในระดับที่น่าสนใจ โดยไม่มีข้อจำกัดด้านการจัดน้ำหนักลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ (Flexibility) แต่เน้นลงทุนแบบมีเป้าหมายด้วยการวิเคราะห์ตลาด (Focus on Specific) บนผลตอบแทนและความเสี่ยง (Risk-Adjusted Return Approach)

“ปัจจุบันภาวะตลาดมีความผันผวนที่สูงมาก จากกระแสข่าวต่างๆ ที่ออกมาแต่ละวัน ส่งผลให้การลงทุนค่อนข้างจับจังหวะได้ยาก ดังนั้นการจัดพอร์ตด้วยการกระจายการลงทุนแบบเชิงรุก Active Allocation พร้อมด้วยการวิเคราะห์เลือกลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดีและระดับราคาน่าสนใจ โดยไม่อิงกับดัชนี จึงเป็นกลุยทธ์ลงทุนของกองทุน WE-GA5M ที่ บลจ.วี เชื่อว่าจะช่วยสร้างผลตอบแทนตามเป้าหมายในระยะสั้นจากการลงทุนตลาดหุ้นทั่วโลกได้”นายอิศรา กล่าว