ทริสเพิ่มเครดิต SGP หุ้นร่วงรับพาร์ใหม่

“ทริส” ปรับเพิ่มเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ของ SGP เป็น BBB+ ผลดำเนินงานดี ฐานะการเงินแข็งแรง ห่วงความเสี่ยงธุรกิจสูงขึ้นจากการนำเข้าก๊าซ LPG มาขายในประเทศ

บริษัททริสเรทติ้ง ปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) เป็นระดับ “BBB+” จากเดิมที่ระดับ “BBB”

ในขณะเดียวกัน ยังได้ปรับเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันบางส่วนของบริษัทเป็นระดับ “A+” จากเดิมที่ระดับ “A” ด้วย โดยหุ้นกู้ชุดหลังได้รับการค้ำประกันบางส่วนจาก Credit Guarantee and Investment Facility (CGIF) ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ “AAA” จากทริสเรทติ้ง

การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะทางการเงินของบริษัทที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากผลการดำเนินงานที่ดีติดต่อกันและงบการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น รวมไปถึงความสามารถของบริษัทในการสร้างผลกำไรแม้จะมีการเปิดรับความเสี่ยงด้านราคาที่มากสูงขึ้นก็ตาม

อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงตำแหน่งทางการตลาดที่เข้มแข็งในประเทศไทยและการมีเครือข่ายกระจายสินค้าที่แข็งแกร่ง

อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตถูกลดทอนบางส่วนจากความเสี่ยงของธุรกิจที่สูงขึ้นจากการดำเนินกิจการในต่างประเทศ ซึ่งทำให้บริษัทเผชิญกับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาก๊าซ LPG

ปัจจุบัน SGP เป็นผู้ค้าก๊าซ LPG รายใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดตามปริมาณการขายอยู่ที่ 24.4% ในปี 2560 ในขณะที่ผู้นำตลาดคือ บริษัท ปตท. มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 39.6% และอันดับ 3 คือ บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 20.1%

“ทริสเรทติ้งยังเห็นว่าธุรกิจจำหน่ายก๊าซ LPG ในประเทศนั้นยังคงเป็นแหล่งสร้างกำไรที่มั่นคงของบริษัท เนื่องจากยังมีการควบคุมราคาในตลาด แต่กำไรของธุรกิจในประเทศบางส่วนเริ่มมีความผันผวนมากขึ้น หลังจากเริ่มมีการนำเข้าก๊าซ LPG มาจำหน่ายในปี 2560 จากเดิมที่เคยสั่งซื้อจากบริษัท ปตท. ทั้งหมด ทั้งนี้ ปริมาณก๊าซ LPG ที่นำเข้ามาจำหน่ายคิดเป็นประมาณ 40% ของยอดขายรวมภายในประเทศของบริษัทในปี 2560 “ทริสระบุ

ด้านการซื้อขายหุ้น SGP วันที่ 17 พ.ค.2561 ซึ่งเป็นวันแรกของมูลค่าหุ้นที่ตราไว้(พาร์)ใหม่ 0.50 บาท/หุ้น ปรากฎว่าราคาหุ้นปรับตัวลงมาอยู่ที่ 11.80 บาท ติดลบ 0.45 บาทหรือ 3.67% ณ เวลาประมาณ 15.36 น. ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ราคาปิดที่ 24.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาทหรือ 3.38% จากพาร์ หุ้นละ 1 บาท