ถึงคิวทุบ DDD ราคาไหลรูด 3 วัน 20 %

ทิ้งหุ้น DDD ราคาไหลรูดต่ำสุดตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์ นักลงทุนกังวลรายได้ชะลอตัว เมินผู้บริหารออกโรงธุรกิจโตต่อเนื่อง

ราคาหุ้น ดู เดย์ ครีม ( DDD ) ปรับตัวร่วงหนักตลอดทั้งวันของการซื้อขาย 17 พ.ค. นี้ ระหว่างวันราคาลดลงต่ำสุด 75.50 บาท ลดลง 10 บาท หรือ 11 % จากวันก่อน ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายหนาแน่น ล่าสุดเวลา 15.20 น.ราคาอยู่ที่ 78.25 บาท ลดลง 7.75 บาท หรือ 9.01 % มูลค่าซื้อขาย 223.74 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่การตลาด กล่าวว่า หุ้น DDD ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 หลังจากแจ้งผลประกอบการไตรมาส 1 ที่ยอดขายเติบโตเพียงเล็กน้อย ทำให้นักลงทุนกังวลอัตราการเติบโตของรายได้ไม่ทันการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น ทำให้มีแรงขายออกมา ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลงต่ำสุดนับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ แต่ราคา ณ ปัจจุบัน ยังสูงกว่าราคาที่เสนอขายนักลงทุนทั่วไปครั้งแรก ( IPO ) ที่ 53 บาท

ทั้งนี้ ราคา DDD ไหลจาก 94 บาท ( 14 พ.ค. ) ลงมาต่ำสุด 75.50 บาท ลดลง 18.50 บาท หรือ 19.68 %

นายปิยวัชร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชี และการเงิน DDD กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาสแรก / 2561 มีกำไรสุทธิ 112 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50 ล้านบาท หรือ 79.6 % มีรายได้การขาย 374.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.1 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับผลประกอบการของช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 355.2 ล้านบาท

ผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นมากที่สุดยังเป็นผลิตภัณฑ์บำรุง บริษัทฯได้ปรับรูปแบบบรรจุภัณฑ์ หลังจากได้รับใบอนุญาตจากองค์การอาหารและยาแห่งประเทศจีน หรือ CFDA เมื่อต้นปี 2561 ซึ่งใช้เวลาปรับปรุงประมาณ 2 เดือน ทำให้มีการชะลอการส่งออกบางส่วนในช่วงไตรมาสแรก แต่จะกลับมาส่งออกได้ตามปกติภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้

ปิยวัชร ราชพลสิทธิ์

คาดว่าผลประกอบการในปี 2561 จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี 2560 เนื่องจากยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้จะเติบโตขึ้น หลังจากบริษัทฯได้รับใบอนุญาต China Food and Drug Administration หรือ CFDA หรือเครื่องหมายอาหาร และยา หรือ อย.ในประเทศจีน ทำให้สามารถนำผลิตภัณฑ์หลักขยายไปยังช่องทางจัดจำหน่ายอื่นเพิ่มเติมได้ เช่น การขายผลิตภัณฑ์ส่ง หรือ Wholesale รวมถึงการขยายช่องทางจัดจำหน่ายแบบออฟไลน์ที่มีศักยภาพสามารถเข้าถึงลูกค้า และมีมูลค่าตลาดที่สูง

ล่าสุดเริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่าน จูไห่ ดิวตี้ฟรี (Zhuhai Duty Free) ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าแห่งใหม่ คาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายจากการส่งออกได้ดียิ่งขึ้น และจะนำไปสู่การขายสินค้าแบบออฟไลน์ในอนาคต ซึ่งจูไห่ ดิวตี้ฟรี ตั้งอยู่บริเวณชายแดนกงเป่ย ซึ่งเป็นพรมแดนระหว่างเมืองจูไห่ประเทศจีน และมาเก๊า โดยมียอดนักท่องเที่ยวหมุนเวียนสูงถึง 136 ล้านคนต่อปี หรือเฉลี่ย 250,000 คนต่อวันในช่วงวันธรรมดา และ 4 แสนคนต่อวันในช่วงวันหยุด ซึ่งการจำหน่ายสินค้าแบรนด์สเนลไวท์ที่จูไห่ ดิวตี้ฟรี จะช่วยให้ลูกค้าชาวจีน และนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ ได้ทำความรู้จักกับแบรนด์ และเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้นอีกด้วย