แบงก์ชาติ ขู่พร้อมออกมาตรการเพิ่ม สกัดเก็งกำไรเงินบาท

ผู้ว่าแบงก์ชาติ ขู่พร้อมออกมาตรการเพิ่มเติม สกัดเก็งกำไรเงินบาท ชี้มาตรการคุมเงินไหลเข้าตลาดหุ้น-บอนด์ ได้ผล  ยันไม่ใช่ยาแรงเห็นผลเร่งด่วนแต่ช่วยลดแรงกระแทก 

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงก์ชาติ) เปิดเผยภายหลังการประชุมนักวิเคราะห์​ (Analyst Meeting) ครั้งที่ 3/2562 ว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้ มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ ประมาณการจีดีพีปีนี้  3.3% จากเดิมคาด 3.8%  จากการส่งออกและบริการเป็นสำคัญ

ส่วนปี 2563 คาดขยายตัวได้ 3.7% จากเดิมคาด 3.9% และยังติดตามความเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้า แนวโน้มเศรษฐกิจจีนและประเทศอุตสาหกรรมหลัก

ผู้ว่าแบงก์ชาติ ยอมรับว่า  มีความกังวล  เงินบาทแข็งค่าเร็วเทียบสกุลเงินอื่น  และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ออกมาตรการดูแลอย่างรอบคอบ มีการปรับตารางการออก และลดวงเงินการออกพันธบัตร และพร้อมออกมาตรการอื่นเพิ่มเติม หากพบว่า เงินบาทเคลื่อนไหวไม่สอดคล้องกับเศรษฐกิจในปัจจุบัน ยืนยันว่าดอกเบี้ย ไม่ใช่ปัจจัยทำให้เงินไหลเข้ามาพักในไทย เพราะดอกเบี้ยไทยอยู่ระดับต่ำ 1.75 % ดอกเบี้ยแท้จริง 0.88 % เป็นระดับที่ต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค

นอกจากนี้ เงินที่ไหลเข้ามาในตลาดหุ้นและตลาดบอนด์  ทำให้แบงก์ชาติ ต้องออกมาตรการดูแล โดยไม่ได้หวังผลเร่งด่วน แต่เป็นการลดแรงกระแทก สร้างกันชนเวลาที่มีเงินไหลเข้ามาแรง  จึงไม่ได้เป็นยาแรงและเห็นผลทันที แต่ต้องการความต่อเนื่องในระยะยาว  จะเห็นว่า หลังออกมาตรการ ตลาดปรับตัวในทิศทางที่ดี บาทอ่อนค่าลง สะท้อนว่า นักลงทุนต่างชาติ ต้องระวังหากคิดจะพักเงินในช่วงสั้นของไทย

” การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ไม่ได้ส่งผลมากนัก  การดำเนินนโนยบายการเงิน ต้องคำนึงถึงปัจจัยในแต่ละประเทศเป็นหลัก ยืนยันว่า พร้อมปรับเปลี่ยนนโยบายหากสถานการณ์เปลี่ยน รวมทั้งเตรียมหารือรมว.คลัง ถึงกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อปี 2563 ” ผู้ว่าแบงก์ชาติ กล่าว