ดีบีเอสฯ แนะซื้อ DIF เคาะสัดส่วนเพิ่มทุนราคามีอัพไซด์

HoonSmart.com>> กองทุน DIF เคาะอัตราส่วนจัดสรรหน่วยลงทุนใหม่แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมที่มีสิทธิจองซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มทุนในอัตรา 9.40 หน่วยลงทุนเดิม ต่อ 1 หน่วยลงทุนใหม่ เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XB วันที่ 2 ส.ค.นี้ ด้านบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส แนะนำซื้อ พร้อมใช้สิทธิเพิ่มทุน ให้ราคาเป้าหมาย 18.40 บาท

วีณา เลิศนิมิตร

นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) กล่าวว่า ในการเสนอขายหน่วยลงทุนเพิ่มทุนใหม่ กองทุน DIF กำหนดอัตราส่วนใช้สิทธิ์จองซื้อแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมที่มีสิทธิ์จองซื้อในอัตราส่วน 9.40 หน่วยลงทุนเดิม ต่อ 1 หน่วยลงทุนใหม่

กองทุน DIF เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XB ในวันที่ 2 สิงหาคม 2562 ซึ่งผู้ที่ต้องการได้รับสิทธิจองซื้อหน่วยลงทุนใหม่ จะต้องซื้อหน่วยลงทุนเดิมก่อนวันที่ขึ้นเครื่องหมาย XB ดังกล่าว และจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมที่มีสิทธิจองซื้อหน่วยลงทุนใหม่ (Record Date) ในวันที่ 5 สิงหาคม 2562

นางสาววีณา กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังการเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 4 จะทำให้ประมาณการเงินปันส่วนแบ่งกำไรต่อหน่วยลงทุน (Cash Distribution Per Unit หรือ DPU) ไม่ต่ำไปกว่าประมาณการเงินปันส่วนแบ่งกำไรของกองทุน ในกรณีที่กองทุนฯ ไม่ได้เข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 4 โดยประมาณการเงินปันส่วนแบ่งกำไรต่อหน่วยลงทุนภายหลังการเข้าลงทุนดังกล่าว สำหรับช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 ถึง 30 กันยายน 2563 ซึ่งจัดเตรียมโดยบริษัทจัดการ และตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีที่ได้รับอนุญาต อยู่ที่ 1.044 บาทต่อหน่วย

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ยังคงคำแนะนำซื้อ DIF และแนะให้ใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน ให้ราคาพื้นฐาน 18.40 บาท โดยมองสัดส่วนการเพิ่มทุนดังกล่าว และจำนวนเพิ่มทุนที่ไม่เกิน 1,026 ล้านหน่วย รวมถึงมูลค่าสินทรัพย์ที่จะซื้อเข้ามาสูงสุดที่ 1.58 หมื่นล้านบาท จะคำนวณราคาเพิ่มทุนสูงสุดได้ที่ 15.40 บาท/หน่วย ซึ่งมีส่วนลด 11% จากราคาปิดวันที่ 22 ก.ค.62 และมีส่วนลด 9% จากราคาเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วัน แต่ถ้ามูลค่าสินทรัพย์ที่ซื้อต่ำกว่า 1.58 หมื่นล้านบาท ราคาเพิ่มทุนก็มีโอกาสที่จะต่ำกว่า 15.40 บาท/หน่วยได้

สำหรับราคา DIF ณ เวลา 11.54 ณ อยู่ที่ 17.20 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ -1.15% มูลค่าซื้อขาย 133.16 ล้านบาท

ณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย

ด้านนายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุน DIF เปิดเผยว่า กองทุน DIF เตรียมเข้าลงทุนในทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพิ่มเติมครั้งที่ 4 จากกลุ่มทรู มูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 15,800 ล้านบาท และเพิ่มทุนจดทะเบียนของกองทุนฯ รวมไม่เกิน 10,500 ล้านบาท หลังได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล ครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ทรัพย์สินใหม่ที่จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 4 จากกลุ่มทรู ประกอบด้วย

1. กรรมสิทธิ์ในเสาโทรคมนาคมสำหรับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รวม 788 เสา ซึ่งอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี

2. กรรมสิทธิ์ในใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Cable หรือ FOC) สำหรับให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในเขตพื้นที่ต่างจังหวัด ระยะทางประมาณ 1,795 กิโลเมตร (หรือประมาณ 107,694 คอร์กิโลเมตร) และ

3. กรรมสิทธิ์ใน FOC ซึ่งปัจจุบันใช้รองรับเทคโนโลยีระบบ FTTx สำหรับให้บริการอินเทอร์เน็ตและบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดรวมระยะทางประมาณ 315 กิโลเมตร (หรือประมาณ 40,823 คอร์กิโลเมตร) และประมาณ 3,414 กิโลเมตร (หรือประมาณ 147,209 คอร์กิโลเมตร) ตามลำดับ

LESIYPแหล่งเงินทุนที่ใช้สำหรับการเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้ จะมาจากการเพิ่มทุนจดทะเบียนกองทุน DIF โดยจะออกและเสนอขายหน่วยลงทุนใหม่ จำนวนไม่เกิน 1,050 ล้านหน่วย แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนตามสัดส่วนการถือหน่วยลงทุน

ขณะที่ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน DIF ย้อนหลัง 3 ปี (ปี 2559 – 2561) สามารถจ่ายเงินปันส่วนแบ่งกำไรต่อหน่วยลงทุนแก่ผู้ถือหน่วยอย่างสม่ำเสมอ รวมต่อปีในอัตรา 0.956, 0.975 และ 1.016 บาทต่อหน่วยตามลำดับ โดยภายหลังเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 4 กองทุน DIF จะสามารถจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินที่ลงทุนเพิ่มเติมได้ทันที