DOHOME ขาย 7.80 บาท สถาบันจองล้นให้ราคาสูงสุด

HoonSmart.com>>ตลาดไอพีโอเฟื่อง  DOHOME ตั้งราคาขาย 7.80 บาท สูงสุดจากสำรวจความต้องการจากสถาบัน หุ้นเข้า SET 6 ส.ค.  KUMWEL ขายหมดเกลี้ยง 130 ล้านหุ้น ราคา 1.10 บาท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (ILM) พร้อมลงสนามตลาดหลักทรัพย์ 26 ก.ค. เจ้าของฝากหุ้น 78% เข้าเซฟ ไม่ขาย 1 ปี  เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น (TPS) ยื่นไฟลิ่ง เตรียมขาย 80 ล้านหุ้น ภายในปีนี้ 

นายอนุวัฒน์ ร่วมสุข กรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายตลาดทุน บล.ภัทร ที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ดูโฮม (DOHOME) เปิดเผยว่า DOHOME เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 4,065.36 ล้านบาท ราคาหุ้นละ 7.80 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดของช่วงราคาที่ใช้สำรวจความต้องการซื้อของนักลงทุนสถาบัน หลังจากสำรวจความต้องการ พบว่ามีสถาบันชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ความสนใจและมีความต้องการซื้อมากกว่าปริมาณหุ้นที่เสนอขาย

“เรามั่นใจว่าเป็นราคาที่เหมาะสม สะท้อนถึงความสนใจของนักลงทุน และความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ความสามารถของทีมบริหารและศักยภาพในการสร้างการเติบโตในอนาคต ทั้งนี้ DOHOME จัดเป็นการเสนอขายหุ้นไอพีโอที่มีมูลค่าสูงที่สุดนับจากต้นปีจนถึงเดือน ก.ค.ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย”นายอนุวัฒน์ กล่าว

สำหรับหุ้นที่เสนอขายแบ่งเป็นหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 456.16 ล้านหุ้น ของผู้ถือหุ้นเดิม คือ  Amplus Holdings Limited จำนวน 8.88 ล้านหุ้น และจัดสรรหุ้นสามัญส่วนเกิน 56.16 ล้านหุ้น   เสนอขายนักลงทุนสถาบันวันที่ 25-26 และ 30 ก.ค. ส่วนนักลงทุนทั่วไปขาย วันที่ 25-26 ก.ค.และ 30-31 ก.ค.2562

ก่อนหน้านี้บริษัท ดูโฮม เลื่อนการเสนอขายหุ้นไอพีโอ เนื่องจากภาวะตลาดหุ้นไม่เอื้ออำนวย

นายภูธดา ธีรเวชชการ รองผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการ DOHOME กล่าวว่า หุ้นจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันแรกวันที่ 6 ส.ค.นี้ โดยจะนำเงินใช้ลงทุนขยายสาขา, ใช้รองรับการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของบริษัท ชำระเงินกู้สถาบันการเงินและภาระหนี้อื่น ๆ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน

ส่วนหุ้น บริษัท คัมเวล คอร์ปอเรชั่น ( KUMWEL) เปิดขายวันที่ 24-26 ก.ค. จำนวน 130 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1.10 บาท เพื่อเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) คาดว่าจะขายได้หมดตั้งแต่วันแรก จุดแข็งเป็นบริษัทแห่งแรกในตลาดหลักทรัพย์ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบต่อลงดินและป้องกันฟ้าผ่าอย่างครบวงจร แนวโน้มเติบโตตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี่

บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (ILM) ผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกของตกแต่งบ้านชั้นนำในประเทศไทย พร้อมนำหุ้นเข้าเทรดวันแรกใน SET วันที่ 26 ก.ค.นี้ ในราคาหุ้นละ 22 บาท นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ ILM มั่นใจว่าด้วยพื้นฐานธุรกิจและความแข็งแกร่งของแบรนด์ ‘อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์’ ตลอดจนมีสินค้าและบริการที่ครบวงจร รวมถึงช่องทางจำหน่ายที่ครอบคลุม จะเป็นปัจจัยสนับสนุนความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน

ส่วนแผนการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโต ได้วางแผนขยาย Index Living Mall เพิ่มขึ้นปีละ 2-3 สาขา ปัจจุบันบริษัทมี 36 สาขา ครอบคลุมพื้นที่กว่า 21 จังหวัดทั่วประเทศ ให้เช่าและบริการพื้นที่เช่า ภายใต้แบรนด์ The Walk, Little Walk และ Index Mall รวม 9 สาขา

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง  ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุน ILM กล่าวว่า นักลงทุนให้ความเชื่อมั่นในศักยภาพการดำเนินธุรกิจและแผนขยายการลงทุนที่จะสร้างการเติบโตในอนาคต

นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นเดิม ได้แก่ กลุ่มปัทมสัตยาสนธิ และ อุดมมหันติสุข จะนำหุ้นระมาณ 395 ล้านหุ้น คิดเป็น 78% ของหุ้นทั้งหมด นำฝากไว้กับบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) และบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง เป็นระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่หุ้น เริ่มตั้งแต่วันเข้า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน

บริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น (TPS) โดยนางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) ที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า วันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้ยื่นไฟลิ่งเสนอขายไอพีโอจำนวน 80 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท   คาดเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ปลายปี 2562

สำหรับ TPS ดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เป้าหมายระดมทุน เพื่อนำเงินไปใช้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเครือข่า การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลเพื่อแสดงระบบรักษาความปลอดภัยและและระบบสื่อสารครบวงจร , ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน จากการลงทุนซื้อที่ดินและก่อสร้างอาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

“ความน่าสนใจของ TPS คือ เป็น 1 ในบริษัทชั้นนำ ที่ได้รับความเชื่อถือจากบริษัทชั้นนำในกลุ่มอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยี มากว่า 15 ปี  ทีมงานมีประสบการณ์กับธุรกิจให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้งและจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบโครงข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศชั้นนำระดับประเทศ ปัจจุบันลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ทั้ง ภาครัฐและเอกชน สถาบันการเงิน  สถาบันการศึกษาโรงพยาบาล ฯลฯ”

ผลประกอบการปี  2561 มีรายได้รวม 535.68 ล้านบาท กำไรสุทธิ 42.67 ล้านบาท ไตรมาส 1/62  มีรายได้รวม 142.69 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 9.59 ล้านบาท

นายบุญสม กิจเกษตรสถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TPS กล่าวว่า เป้าหมายการเข้าตลาด mai  เพื่อการเติบโตและโอกาสขยายธุรกิจให้มีความแข็งแกร่ง เพิ่มบริการที่มีคุณภาพให้แก่ลูกค้า

“อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ และมีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต จากตัวเลขพบว่า มีมูลค่าประมาณ 6.1 แสนล้านบาท ในปี 2561 หรือ 3.9 % ของจีดีพี  มีอัตราการเติบโต 2.2 %  จากปี 2560 ของตลาดสื่อสารของประเทศไทย และ นโยบาย  4.0 ของรัฐบาลที่ขับเคลื่อนด้วยการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี  สนับสนุนการเติบโต ทำให้มั่นใจว่า หุ้น TPS จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน” นายบุญสม กล่าว