ONE-COMPLEXS501YA เงินต้นไม่หาย-จ่ายผลตอบแทน “ขั้นต่ำ” ลุ้นหุ้นขึ้น “กำไร” เพิ่ม

HoonSmart.com>> เปิดตัวเป็นกองแรกสำหรับ กองทุนเปิด “วรรณ คอมเพล็กซ์รีเทิร์นSET50 1YA” (ONE-COMPLEXS501YA) ซึ่งเป็นกองทุนทางเลือก (Alternative Fund) กองแรกที่เป็น Structured Note อายุ 1 ปี ที่ให้ “ผลตอบแทนขั้นต่ำ” ซึ่งกำหนดไว้ 0.5% เท่ากับเงินฝากออมทรัพย์และยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงสุด 5.5% หาก “หุ้น” ขึ้นตามเงื่อนไข

หนึ่งใน “ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน” ที่ถูกออกแบบมารองรับนักลงทุนที่ต้องการ “ลดความเสี่ยงจากการขาดทุนเงินต้น” และยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น จากกลยุทธ์การลงทุนผ่านสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ของกองทุน จึงถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “กองทุนมีความเสี่ยงสูงและซับซ้อน” นักลงทุนจึงจำเป็นต้องศึกษาข้อมูล เพื่อทำ “ความเข้าใจ” ก่อนลงทุน

 

ความน่าสนใจของกองทุน?
ได้รับผลตอบแทนขึ้นกับดัชนีอ้างอิง SET50 Index ในอีกประมาณ 1 ปีข้างหน้า
– มีอัตราส่วนร่วมในผลตอบแทนเท่ากับ 50% โดยผลตอบแทนสูงสุดที่เป็นไปได้ คือ 5.5% ในกรณีที่ ไม่เคยมีวันใดวันหนึ่ง ตลอดอายุโครงการที่ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับระดับดัชนี ณ วันเริ่มต้นสัญญา
เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลดความเสี่ยงจากการขาดทุนเงินต้น โดยยังได้รับผลตอบแทน 0.5% หากดัชนีปรับตัวลดลง หลังจากสิ้นสุดโครงการ
เหมาะกับนักลงทุนที่สามารถลงทุนได้ตลอดอายุกองทุนระยะเวลาประมาณ 1 ปี
* กองทุนยังคงมีความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ (Default Risk) ที่เกิดจากการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสารหนี้/เงินฝาก

 
“ลงทุนตราสารหนี้-สัญญาซื้อขายล่วงหน้า”
กองทุนจัดตั้งเป็น “กองทุนผสม” อายุการลงทุน 1 ปี มีนโยบายการลงทุนแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกลงทุนในตราสารหนี้และหรือเงินฝากทั้งในประเทศและหรือต่างประเทศมีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ ้(Investment Grade) รวมประมาณ 98.5% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เงินลงทุนเติบโตเป็น 100.50% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนเมื่อวันสิ้นสุดโครงการ 1 ปี

สำหรับตราสารที่เลือกลงทุนเป็นตราสารหนี้ต่างประเทศที่มี Credit Rating ระดับ A และ A- จาก Moody’s ซึ่งสูงกว่า Credit Rating ของประเทศไทยที่เฉลี่ยอยู่ในระดับ BBB+ สะท้อนให้เห็นว่า กองทุนมีความเสี่ยงจากปัจจัยด้าน Credit Risk ที่น้อยมาก พร้อมทั้งมีการป้องกันความเสี่ยงด้านค่าเงินทั้งจำนวนสำหรับเงินลงทุนในต่างประเทศ

ส่วนที่สอง เงินลงทุนส่วนที่เหลือประมาณ 1.5% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิกองทุนจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ประเภทสัญญาคอลวอร์แรนท์ หรือสัญญา คอลออปชั่นที่มีการจ่ายผลตอบแทบอ้างอิงระดับดัชนีอ้างอิงของ SET50 Index โดยจะมี Notional Amount ประมาณหรือเท่ากับมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ วันจดทะเบียน

 
โอกาสรับผลตอบแทน 0.5%-5.5%
จากการลงทุนที่แบ่งเป็น 2 ส่วน ทำให้ผลตอบแทนส่วนแรก ที่ลงทุนในตราสารหนี้และหรือเงินฝากทั้งในและต่างประเทศ ในสัดส่วน 98.5% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน จะมีเป้าหมายเพื่อให้เงินลงทุนเติบโตเป็น 100.50% ของเงินลงทุนทั้งหมด เมื่อสิ้นสุดโครงการ 1 ปี

ส่วนที่สอง มาจากเงินลงทุนที่เหลือ 1.5% ซึ่งกองทุนนำไปลงทุนในสัญญาคอลวอร์แรนท์ หรือ สัญญาคอลออปชั่นที่มีการจ่ายผลตอบแทบอ้างอิงระดับดัชนีอ้างอิงของ SET50 Index โดยผู้ถือหน่วยจะได้รับผลตอบแทนขั้นต่ำ 0.5% เมื่อสิ้นสุดอายุโครงการ

สรุปง่ายๆ ผลตอบแทนของกองทุนจะมาจาก 2 ส่วน คือ เงินต้นและผลตอบแทน ซึ่งในส่วนของผลตอบแทนจะขึ้นอยู่กับการขึ้นลงของดัชนี SET50 Index ตามกลยุทธ์การกระจายลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของกองทุน จึงทำให้ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนใน 3 แบบ เมื่อเข้าเงื่อนไขอย่างใดอย่างหนึ่ง สมมติ ผู้ลงทุนซื้อกองทุนจำนวน 1,000,000 บาท ณ วันเริ่มต้นสัญญา ดัชนี SET50 Index อยู่ที่ระดับ 100 จุด

เงื่อนไขแรก : ดัชนี SET50 ณ วันพิจารณา “น้อยกว่าหรือเท่ากับ” วันเริ่มต้นสัญญาที่ 100 จุด โดย “ไม่มีวันใดวันหนึ่ง” ที่ SET50 สูงกว่า 110 จุด หรือสูงกว่า 10% ของวันเริ่มต้นสัญญา ผู้ลงทุนจะได้รับ เงินต้น + ผลตอบแทนคงที่ 0.5%
ผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนได้ทั้งหมดรวมเงินต้น 1,000,000 บาท + (1,000,000 x 0.5%) เท่ากับ 1,005,000 บาท คิดเป็น 0.5%

เงื่อนไขที่สอง : ดัชนี SET50 ณ วันพิจารณา “ปรับตัวขึ้นแต่ไม่เกิน 10%” จากระดับดัชนี ณ วันเริ่มต้นสัญญา หรือไม่เกิน 110 จุด โดยไม่มีวันใดวันหนึ่งสูงกว่า 10% ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเท่ากับ 50% ของดัชนีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น บวกกับ 0.5% ซึ่งผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนสูงสุดที่ระดับ 5.5%
ผลตอบแทนทั้งหมดรวมเงินต้น 1,000,000 บาท + (1,000,000 x 5.5%) เท่ากับ 1,055,000 บาท คิดเป็น 5.5%

เงื่อนไขที่สาม : ดัชนี SET50 ณ วันใดวันหนึ่งตลอดอายุสัญญา “ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 10%” ยืนเหนือ 110 จุด จากระดับดัชนีในวันเริ่มต้นสัญญา ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนคงที่ 1.0% จากสัญญาซื้อขายล่วงหน้า บวกกับ 0.5%
ผลตอบแทนทั้งหมดรวมเงินต้น 1,000,000 บาท + (1,000,000 x 1.5%) เท่ากับ 1,015,000 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 1.5%

ไม่ว่าจะเงื่อนไขแบบไหน ผลตอบแทนก็ยังอยู่ครบ เงินต้นไม่หาย น่าจะตอบโจทย์คนที่อยากได้ผลตอบแทนมากกว่า “ดอกเบี้ยเงินฝาก” แต่กล้าๆ กลัวๆ กับการลงทุนใน “หุ้น”

ในขณะที่มุมมองตลาดหุ้นของบลจ.วรรณในปี 1 ปีข้างหน้า คาดการณ์ว่า ดัชนี SET50 มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ยังคงเป็นการปรับขึ้นในกรอบที่จำกัด กองทุนนี้จึงเหมาะสมกับภาวะตลาดเช่นนี้ แม้เศรษฐกิจในประเทศยังมีความแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังต้องติดตามความเสี่ยงจากภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกของไทยที่ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน รวมถึงปัจจัยการเมืองในประเทศหลังจากรัฐบาลมีคะแนนเสียงในสภาใกล้เคียงกับฝ่ายค้าน ซึ่งอาจจะกระทบต่อการลงคะแนนเสียงผ่านร่างกฎหมายในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะกระทบต่อโครงการลงทุนของภาครัฐให้ชะลอลง รวมถึงการร่างงบประมาณปี 63 ให้มีโอกาสล่าช้าลงได้

อีกทั้ง หากพิจารณาผลตอบแทนของดัชนี SET50 ในอดีตที่ผ่านมา พบว่า ดัชนีมีผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวกในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แต่หากพิจารณาในช่วง 5 ปี ดัชนีมีผลตอบเฉลี่ยเป็นบวกและไม่เกินระดับ 10% กอปรกับปัจจัยราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวในกรอบ จากปัจจัยทั้งอุปสงค์และอุปทานในตลาดโลกซึ่งมีแนวโน้มทรงตัว โดยจะส่งผลดีให้ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานใน SET50 ไม่ผันผวนมากนัก

 
เหมาะกับลูกค้าเงินฝากประจำ – ลงทุนตราสารหนี้
ถือเป็นอีกทางเลือกสำหรับการลงทุนท่ามกลางดอกเบี้ยอยู่ระดับต่ำ ฉุดผลตอบแทนกองทุนตราสารหนี้ไม่น่าสนใจ ด้านตลาดหุ้นมีความผันผวน กองทุน “คอมเพล็กรีเทิรน์” จึงออกมาตอบโจทย์ให้ผู้ลงทุนและเหมาะกับกลุ่มลูกค้าเงินฝากประจำ เพราะผลตอบแทนขั้นต่ำของกองทุน 0.5% เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยเงินออมทรัพย์และยังเหมาะกับผู้ที่สนใจลงทุนตราสารหนี้ เพราะเป็นการลงทุนช็อตสุดท้ายก่อนเก็บภาษีกองทุนตราสารหนี้จะมีผลในวันที่ 20 ส.ค.62 นี้

สำหรับกองทุนเปิด “วรรณ คอมเพล็กซ์รีเทิร์นSET50 1YA” (ONE-COMPLEXS501YA) เปิดเสนอขายครั้งเดียววันที่ 5 – 13 ส.ค.62 ลงทุนขั้่นต่ำ 5,000 บาท