DOD ออเดอร์จ่อเข้ากว่า 350 ลบ.-ร่วมพันธมิตรบุกออนไลน์ในจีน

HoonSmart.com>> “ดีโอดี ไบโอเทค”ส่งซิกออเดอร์ครึ่งปีหลังจ่อเข้าไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท ชู “อัลทิมา ไลฟ์” และ “PCCA” หนุนรายได้เพิ่ม หลังปรับโครงสร้างธุรกิจ ส่อแววเริ่มชัดเจน มั่นใจปีนี้โตตามเป้าไม่ต่ำว่า 10% บอร์ดไฟเขียวตั้งบริษัทร่วมทุนพันธมิตรในประเทศจีน เปิดตลาด E-Commerce เตรียมนำผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง สกินแคร์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร บุกจำหน่ายตลาดออนไลน์ในจีน

น.ส.เรณุมาศ อิศรภักดี รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่มีส่วนประกอบหลักมาจากสารสกัดจากธรรมชาติ ในรูปแบบการรับจ้างพัฒนาและผลิต (ODM) ที่ให้บริการแบบครบวงจร (One Stop Service) ซึ่งได้รับมาตรฐานระดับสากล เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯปรับแผนโครงสร้างทางธุรกิจ นับตั้งแต่ปลายปี 2561 ต่อเนื่องมาจนถึงในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ส่งผลให้ทิศทางภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง เริ่มส่งสัญญาณในทิศทางที่ดีขึ้น โดยเห็นได้จากยอดออเดอร์ผลิตสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะจากบริษัท อัลทิมา ไลฟ์ จำกัด (DOD ถือหุ้นอยู่ 80%) ซึ่งดำเนินธุรกิจในรูปแบบขายตรง ภายใต้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ที่เน้นสารสกัดจากธรรมชาติทั้งหมด โดยล่าสุดมีออเดอร์ เข้ามาแล้วมูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้ โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภค ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อดูแลรูปร่างและผิวพรรณ,ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อดูแลสุขภาพ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ” น.ส.เรณุมาศ กล่าว

ในขณะที่บริษัท พีซีซีเอ แล็บบอราเทอรี่ จำกัด (PCCA) ดำเนินธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และสกินแคร์ แบบครบวงจร ซึ่งเป็นการลงทุนผ่าน บริษัท ดีโอดี เฮ้ลท์ตี้ไลฟ์ จำกัด (DOD ถือหุ้นอยู่ 99.99%) นั้น หลังจากที่บริษัทฯได้มีการออกแบบ คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้มีความหลากหลายชนิดผลิตภัณฑ์ อาทิ ครีมกันแดด แผ่นมาร์คหน้า ลิปสติก ครีมรองพื้น โฟมล้างหน้า ครีมสครับหน้า โลชั่นกันยุงสำหรับเด็ก ฯลฯ มากขึ้น ส่งผลให้ล่าสุด มียอดออเดอร์ที่สั่งผลิตในรูปแบบ OEM เข้ามาแล้วคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ ตั้งแต่ไตรมาส 3/2562 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัทผู้ประกอบการในประเทศจีน เพื่อดำเนินธุรกิจในการเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสกินแคร์ รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผ่านช่องทาง E-Commerce หรือผ่านระบบออนไลน์ ในประเทศจีน โดย DOD ถือหุ้นสัดส่วน 25% ของทุนจดทะเบียนจำนวน 4 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายคือ การนำผลิตภัณฑ์ในเครือข่ายของบริษัทฯไปจำหน่าย ผ่านช่องทาง E-Commerce หรือผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันตลาด E-Commerce ในประเทศจีน มีมูลค่าข้างสูงที่สุดในโลก ดังนั้นเชื่อว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้ จะเปิดโอกาสและสร้างมูลค่าการเติบโตทางธุรกิจให้กับ DOD ได้อย่างมีนัยสำคัญในอนาคต โดยเบื้องต้นคาดว่า กระบวนการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ และจะเริ่มดำเนินการ ทำการตลาดในเชิงพาณิชย์ ได้ในช่วงต้นปี2563

คณะกรรมการยังมีมติจัดตั้งบริษัทย่อย เพื่อเข้ามาบริหารจัดการโรงสกัดวัตถุดิบประเภทสมุนไพร จากเดิมที่อยู่ภายใต้การบริหารของ DOD เพื่อให้เกิดการคล่องตัวในการบริหารจัดการด้านการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ โดย DOD ยังคงสัดส่วนการถือหุ้น 99.99% พร้อมกับเตรียมงบลงทุนประมาณ 260 ล้านบาท นำมาขยายโรงสกัดวัตถุดิบ ลงทุนซื้อเครื่องจักรและห้องปฏิบัติการวิจัย เพื่อสกัดและส่งออกสมุนไพร ไปจำหน่ายในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน

“เฉลี่ยแต่ละปี จีนมีการนำเข้าสารสกัดจากสมุนไพรเป็นจำนวนมาก เพื่อนำไปพัฒนาเป็นยารักษาโรค หรือส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ เช่น เวชสำอาง รวมถึงนำไปเป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มเพื่อดูแลสุขภาพ ดังนั้นเชื่อว่าบริษัทย่อย ดังกล่าว จะเข้ามาสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจของ DOD ได้ในอนาคต โดยคาดว่าโรงสกัด ดังกล่าวคาดจะแล้วเสร็จอย่างช้าที่สุดช่วงปลายปี 2563” น.ส.เรณุมาศ กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2562 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2562 บริษัทฯมีรายได้รวม 128.40 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 17.85 ล้านบาทและมีผลการดำเนินงานงวด6 เดือนแรก 2562 โดยมีรายได้รวม 251.53 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ 59.05 ล้านบาท

สาเหตุที่กำไรไตรมาส 2/2562 ลดลง เนื่องจากบริษัทมีการรับรู้รายได้ที่ลดลงจากการขายระหว่าง บริษัท กับ บริษัท อัลติมาไลฟ์ จำกัด (บริษัทย่อย) จึงทำให้ภาพรวมของบริษัทไม่สามารถรับรู้เป็นรายได้ในงวดปัจจุบัน ซึ่งสินค้าดังกล่าวเมื่อมีการขายจาก บริษัท อัลติมาไลฟ์ จำกัด ให้แก่ลูกค้า บริษัทฯ จะบันทึกเป็นรายได้ในไตรมาส 3/2562 ส่งผลให้ตั้งแต่ไตรมาส 3/2562 เป็นต้นไป บริษัทฯ จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นไปตามแผน ที่บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปีนี้ไม่ต่ำ 10% อย่างแน่นอน

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า กำไรไตรมาส 2/2562 แผ่วตามคาดและผลประกอบการคาดว่าจะกลับมาเติบโตในครึ่งปีหลัง เนื่องจากเริ่มรับรู้รายได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 ตัว คือ เจลลี่ ซอฟเจล และเอ็นเนอจี เจล ช่วยเพิ่มคำสั่งซื้อทั้งลูกค้ารายเดิม และรายใหม่ และ 2) เตรียมผลิตสินค้าของตัวเองในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารซึ่งจะขายในรูปแบบขายตรง 3) จะเริ่มเห็นผลบวกชัดเจนมากขึ้นหลังจากการเข้าซื้อกิจการ PCCA ในช่วงปลายปีก่อน ซึ่งบริษัทมีการปรับปรุงโครงสร้างธุรกิจ และปรับระบบการผลิตเป็นแบบอัตโนมัติโดยติดตั้งเครื่องจักรใหม่ในเดือน พ.ค. ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มรายได้ในปีนี้ราว 300 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมปี 2562 คงประมาณการกำไรสุทธิที่ 326 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากงวดปีก่อน คงคำแนะนำ “เก็งกำไร” ราคาปัจจุบันปรับลดลงสะท้อนความกังวลผลประกอบการที่ชะลอตัวไปแล้ว ซื้อขายที่ PER62 เพียง 13.6x ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม Health & Beauty ที่ 18.30 เท่า เรายังคงมูลค่าพื้นฐานที่ 13.10 บาท