หุ้นโรงไฟฟ้าโตก้าวกระโดด GULF กวาดกำไร 1,603 ลบ.

HoonSmart.com>>ธุรกิจไฟฟ้าโชว์ผลงานโดดเด่น ไตรมาส 2/62 GULF โกยกำไร 1,603 ล้านบาทพลิกจากขาดทุน  ส่วน EA นิวไฮ  1,442 ล้านบาท โต 46% BGRIM เก็บ 616 ล้านบาท พุ่งขึ้น 191% GUNKUL 6 เดือน กระฉูด 661 ล้านบาท ทะยาน 4,427%  ทุกบริษัทโหมลงทุน มีแรงหนุนเติบโตอีกไกล

บริษัทที่ทำธุรกิจไฟฟ้า มีกำไรเติบโตสูงมากอย่างที่คาดการณ์ หลายบริษัทนิวไฮ ในไตรมาส 2/ 2562 สร้างภาพให้ตลาดหุ้นไทยดูดีขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ที่ธุรกิจส่วนใหญ่ผลงานไม่ดี ได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างประเทศและในประเทศ ทำให้นักลงทุนหันมาสนใจหุ้นไฟฟ้า เห็นได้จากราคาหุ้นที่ปรับตัวลง ก็จะมีแรงซื้อเข้ามา สนับสนุนให้ราคาวิ่งไปข้างหน้า โดยบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) มีกำไรสุทธิ 1,603 ล้านบาท พุ่งขึ้น 465% พลิกจากที่ขาดทุน 438 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันปีก่อน รวม 6 เดือนปีนี้กำไรทั้งสิ้น 2,896 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,627 ล้านบาท คิดเป็น 128% จากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,269 ล้านบาท

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี2562- 2563 บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนไว้ที่ 9,200 ล้านบาท โดยเน้นไปที่โครงการผลิตแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออนเฟสแรก ขนาดกำลังการผลิต 1 GWh ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ เพื่อนำไปใช้ในโครงการยานยนต์ไฟฟ้า เรือไฟฟ้า และโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนแห่งใหม่ นอกจากนี้กำลังสร้างโรงผลิตกรีนดีเซลและพีซีเอ็มที่เป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มขั้นสูงและเป็นลิขสิทธิ์ของกลุ่มบริษัทเอง สามารถส่งออกและทดแทนการนำเข้า ซึ่งธุรกิจใหม่ทั้งหมดจะเริ่มรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญในปีหน้า ผลักดันให้รายได้และกำไรในปีนี้และปีหน้าสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัท ในไตรมาส 2/62 มีกำไรสุทธิจำนวน 1,442 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 458 ล้านบาท หรือ 46% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 985 ล้านบาท  รวม 6 เดือนมีกำไร 2,653 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 616 ล้านบาท หรือ 30% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจากการดำเนินธุรกิจ 2,307 ล้านบาท

ทางด้านบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า ในไตรมาส 2/2562 บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 10,866 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.4% สาเหตุหลักมาจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น 989 เมกะวัตต์ จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) 12 โครงการ

ส่วนกำไรสุทธิ อยู่ที่ 1,038 ล้านบาท เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ 626 ล้านบาทสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 191.2% และเติบโตจากไตรมาสก่อนหน้า 17.7% หากไม่รวมอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงและรายการที่ไม่เกิดขึ้นประจำแล้ว บริษัทมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงา 886 ล้านบาท เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่ 557 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 25.7%จากไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าใหม่โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนาม 2 โครงการรวมกำลังการผลิต 677 เมกะวัตต์และโครงการน้ำแจ 1 กำลังการผลิต 15 เมกะวัตต์

ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตจากพลังงานหมุนเวียน เพิ่มขึ้นเป็น 30% จากเดิม 8% และกำลังการผลิตจากโครงการในต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 25% จากเดิม 2% ตอกย้ำการเป็นบริษัทชั้นนำในระดับภูมิภาค โดยอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการใหม่อีกเป็นจำนวนมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นางปรียนาถ กล่าวถึงการพัฒนาโรงไฟฟ้าใหม่ทดแทนโรงไฟฟ้าเดิมว่า บริษัทมีโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 5 โครงการที่เข้าเกณฑ์การสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ทดแทนโรงไฟฟ้าโรงไฟฟ้าเดิมที่ให้โครงการ SPP ที่จะหมดอายุสัญญาในระหว่างปี 2560-2568 สามารถสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้า 25 ปี วางกำหนดการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2565

สำหรับบริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง ( GUNKUL) น.ส.โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า ผลงาน 6 เดือนแรกปีนี้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 661.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 647.26 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4,427.84 % จากรายได้รวม 3,004.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.75% มีรายได้จากการขายเท่ากับ 679.15 ล้านบาท รายได้จากการขายไฟฟ้าและส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าเท่ากับ 1,913.50 ล้านบาท รายได้จากการรับเหมาก่อสร้างและให้บริการเท่ากับ 373.40 ล้านบาท แนวโน้มในครึ่งปีหลัง น่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีงานก่อสร้างในมือ (Backlog) ประมาณ 7,000 ล้านบาท จึงทำให้มั่นใจกำไรเติบโตโดดเด่น รายได้โตไม่น้อยกว่า 30% หรือ 8,000 ล้านบาท