BAM ยื่นไฟลิ่ง ขายหุ้น 54.4 % แปรรูปเข้าตลาด รุกธุรกิจ NPL-NPA

HoonSmart.com>>บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ ยื่นไฟลิ่งเสนอขายหุ้น 1,765 ล้านหุ้น คิดเป็น 54.4% ของทุนชำระแล้ว  แบ่งเป็นหุ้นเดิมของกองทุนฟื้นฟูฯ 1,255 ล้านหุ้น หุ้นเพิ่มทุน 280 ล้านหุ้น กรีนชู 230 ล้านหุ้น  ชูจุดแข็ง บริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ประสบการณ์บริหารจัดการทรัพย์สินกว่า 20 ปี ผลงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง  เข้าตลาดหลักทรัพย์เพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงาน ปรับตัวทันสถานการณ์ เข้าถึงแหล่งเงินทุนหลากหลาย 

นายสมพร มูลศรีแก้ว กรรมการผู้จัดการ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) ผู้นำตลาดธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 16 ส.ค.2562 เพื่อเสนอขายหุ้นและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทยและบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย วัตถุประสงค์ของการระดมทุน จะนำเงินไปซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) และทรัพย์สินรอการขาย (NPA) มาบริหารในอนาคต ชำระคืนเงินกู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

กรรมการผู้จัดการ เชื่อว่าการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ BAM จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงาน ตอบสนองต่อสถานการณ์และสภาพแวดล้อมธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งมีความคล่องตัวในการระดมทุนและเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงเครื่องมือทางการเงินที่หลากหลายมากขึ้น

สำหรับจุดแข็งของ BAM นายสมพรกล่าวว่า เป็นบริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีทีมงานที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี มีฐานข้อมูล และระบบเทคโนโลยี รวมถึงมีสำนักงานใหญ่และสาขาที่เป็นเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศรวม 25 แห่ง นอกจากนี้ยังมีสินทรัพย์หลากหลายประเภทและกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ โดยลูกค้าสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินรอการขายและข่าวสารองค์กรผ่านสื่อต่าง ๆ ในประเทศ เว็บไซต์ของบริษัทฯ Social Media เช่น Facebook และ Line เป็นต้น ระบบแอพพลิเคชั่น BAM บนโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินทั้งหมด ทำให้ BAM สามารถติดต่อและประสานงานกับลูกหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มความคล่องตัวในการจำหน่ายทรัพย์สินของบริษัทฯ

“BAM ก่อตั้งขึ้นมาในปี 2542 เพื่อรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและทรัพย์สินรอการขายจากธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ หรือ BBC ซึ่งเป็นผลจากวิกฤตการณ์ทางการเงินปี 2540 ต่อมาได้ขยายธุรกิจออกไปซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและทรัพย์สินรอการขายจากสถาบันการเงิน ธนาคาร และบริษัทบริหารสินทรัพย์อื่น” นายสมพรกล่าว

ทางด้านผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2559-2561) บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 4,904 ล้านบาท 4,501 ล้านบาท และ 5,202 ล้านบาท ตามลำดับ บริษัทฯ มีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 93,637 ล้านบาท 99,933 ล้านบาท และ 107,653 ล้านบาท ตามลำดับ โดยในปี 2561 BAM มีลูกหนี้ด้อยคุณภาพทั้งหมดจำนวน 86,710 ราย คิดเป็นเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้สุทธิ 75,434 ล้านบาท และมีทรัพย์สินรอการขายสุทธิ 20,596 ล้านบาท

ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า BAM ได้ยื่นไฟลิ่ง เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้นต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) รวมกันไม่เกิน 1,765 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 5 บาท คิดเป็น 54.4% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด ภายหลังเสนอขายหุ้น (กรณีผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินมีการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากบริษัทฯ ทั้งจำนวน) แบ่งเป็นหุ้นเดิมจำนวนไม่เกิน 1,255 ล้านหุ้น หุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 280 ล้านหุ้น และจัดสรรหุ้นส่วนเกินหรือกรีนชู ไม่เกิน 230 ล้านหุ้น ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 16,225 ล้านบาท เป็นหุ้นจำนวน 3,245 ล้านหุ้น และมีทุนที่ออกและชำระแล้ว 13,675 ล้านบาท เป็นหุ้น 2,735 ล้านหุ้น โดยการระดมทุนในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และทรัพย์สินรอการขายในอนาคต ชำระคืนเงินกู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

ปัจจุบัน BAM มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ โดยมีกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถือหุ้นในสัดส่วน 99.99% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ