HoonSmart.com>>7UP รีแบรนด์ดิ้งครบเครื่องลงทุน เล็งล้างขาดทุนพันล.-เร่งปันผลปี 63 “สิทธิชัย” ซีอีโอ มั่นใจปีนี้เทิร์นอะราวน์กำไรครั้งแรกรอบ 5 ปี ลุยลงทุนต่อยอดดันกำไรต่อเนื่อง แย้มปี 2564 เก็บเกี่ยวเงินลงทุนเต็มที่มีรายได้แตะ 4,000 ล้านบาท
นายสิทธิชัย กฤชวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (7UP) เปิดเผยว่า ปีนี้ถือเป็นจุดพลิกธุรกิจของบริษัท มีกำไรสุทธิครั้งแรกในรอบ 5 ปี จะเห็นว่าทีมบริหารชุดใหม่ ที่มีอายุ 2 ปี สามารถจัดการปัญหาในอดีต ผลักดันไตรมาส 2 /2562 มีกำไรสุทธิครั้งแรกรอบ 5 ไตรมาส กระทั่งส่วนผู้ถือหุ้นมากกว่า 50 % ของทุน สามารถปลดเครื่องหมาย C ได้ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 1,400 ล้านบาท และปี 2565 รายได้เบ่งบานรับรู้เต็มขึ้นสู่ระดับ 9,500 ล้านบาท
“ภาพเดิมจากบริษัท เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น (MLINK) เป็นบริษัท เฟอร์รั่ม (FER) กระทั่งเป็นเซเว่น อัพ (7UP) เป็นจุดพลิกธุรกิจ ภาพ 7UP จะเปลี่ยนเป็นปีแรกในรอบ 5 ปี เริ่มมีกำไรตั้งแต่ปีนี้ และปี 2563 กำไรต่อเนื่อง และปี 2564 กำไรมโหฬาร มีรายได้ 4,000 ล้านบาท “
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า การรีแบรนด์ดิ้งของบริษัท ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนชื่อมาจากเฟอร์รั่ม มาเป็นเซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ เปลี่ยนโลโก้ แต่เปลี่ยนโครงสร้างทั้งหมด ตั้งแต่ผู้ถือหุ้น ผู้บริหาร และธุรกิจ ซึ่งเริ่มซื้อและลงทุนธุรกิจที่สร้างรายได้ยั่งยืนสม่ำเสมอ ตั้งแต่ปลายปี 2561 ขณะเดียวกันธุรกิจเดิมยังคงไว้
สำหรับธุรกิจที่ 7 UP ประกอบ ธุรกิจหลัก คือ จัดจำหน่าย แก๊ส LPG , ธุรกิจพลังงานทดแทน/พลังงานทางเลือก ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม Internet of Things (IoT) และ ธุรกิจสาธารณูปโภค
การลงทุนในบริษัทต่าง ๆ ที่จะทำให้ 7 UP มีรายได้ต่อเนื่องในช่วง 3 ปีข้างหน้า เกิดจากการลงทุนในช่วงปลายปี 2561 ต่อเนื่องปัจจุบันปี 2562 การลงทุน ราว 600 ล้านบาทในธุรกิจธุรกิจพลังงาน และ สาธารณูปโภค น้ำ ไฟฟ้า กำจัดการขยะอุตสาหกรรม ทยอยรับรู้รายได้บางส่วนตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป
การลงทุนต่าง ๆ ประกอบด้วย 1.บริษัท สตาร์แก๊ส จำกัด (STAR) สัดส่วน 99.99%
2.บริษัท เฟอร์รั่ม แคปปิตอล จำกัด ( FER CAP ) 99.99% 3.บริษัท เอ็ม โซลูชั่นจำกัด (MSO) 99.99% 4.บริษัท แซม วอเตอร์ ซัพพลาย (SAM) 91% 5.บริษัท ซีฮอร์ส เฟอร์รี่ จำกัด (SEAHORSE) 38% และ 6. บริษัท เทเลแม็กซ์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (TELEMAX) 99.99%
สำหรับโครงการในอนาคตที่ได้งานแล้วคือ โครงการจัดซื้อสะพานเทียบเครื่องบินท่าอากาศยานดอนเมือง (งวงช้าง) จำนวน 33 ชุด มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้น 10% อยู่ระหว่างรอลงนามในสัญญา , โครงการโรงไฟฟ้าประชารัฐชีวมวลในภาคใต้ จำนวน 2 โรง คือ จังหวัดปัตตานีและยะลา ขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในเดือนธันวาคม 2563, ธุรกิจปรับปรุงคุณภาพน้ำเพื่อการเลี้ยงกุ้งให้บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เฟสแรกส่งน้ำ 50,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวันเริ่มไปแล้วไตรมาส1/62 และเตรียมส่งมอบในเฟสที่สอง 14,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวันในช่วงเดือนกันยายนปีนี้
โครงการจัดหาติดตั้งเสาและพาดสายไฟเบอร์ออพติก เมืองเวียงจันทน์ ที่สปป.ลาว มูลค่าโครงการกว่า 100 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้น 10% ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินงานเฟสแรก เพื่อติดตั้งเสา 146 กิโลเมตร และคาดว่าจะเริ่มติดตั้งเสาเฟส 2 ที่ 200 กิโลเมตรในช่วงปลายปี 2562 นี้ , โครงการจัดการของเสียปรอทจากแท่นหลุมผลิตในอ่าวไทย คาดว่าจะสามารถเริ่มให้บริการได้ภายในปี 2563
ส่วนการลงทุนในบริษัท ซีฮอร์ส เฟอร์รี่ จำกัด จะเซ็นสัญญาซื้อเรือ 5 ลำ ๆ ละ 20 ล้านเหรียญ ลำแรกจะรับและให้บริการได้ช่วงเดือนมกราคมปี 2563 ใช้ขนส่งผู้โดยสารและสินค้า เส้นทางแหลมฉบัง-ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเส้นทางแรก ช่วยหนุนรายได้ 900 ล้านบาท/ปี เรือลำที่ 3-5 ทยอยส่งมอบถึงปี 2564 และให้บริการเต็มที่ปี 2565 ในเส้นทางอื่นๆ เช่น สัตหีบ-ประจวบคีรีขันธ์, เส้นทางชลบุรี-สงขลา ช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนพระราม 2
นายสิทธิชัย ยังกล่าวอีกว่า ปี 2563 มีแผนล้างขาดทุนสะสมที่มีกว่า 1.3 พันล้านบาท ให้หมดเกลี้ยง โดยจะขอมติที่ประชุมสามัญประจำปี 2563 ใช้วิธีการลดทุน เพื่อให้บริษัทสามารถจ่ายปันผลผู้ถือหุ้นได้อย่างเร็วที่สุดผลประกอบการปี 2563
“ปี 2564 ที่บริษัทมีรายได้ 4 พันล้านบาท นั้น ธุรกิจที่จะสร้างรายได้หลัก คือ ธุรกิจบำบัดของเสีย สัดส่วน 31 % ธุรกิจขนส่ง เฟอร์รี่ 27 % และธุรกิจแก๊ส 24 % ของรายได้รวม” ผู้บริหารกล่าว