WHA เซ็นสัญญา GESAC รสก.จีน ขายที่ดินนิคมฯ 56 ไร่ สร้างรง.ในไทย

HoonSmart.com>> กลุ่มดับบลิวเอชเอฯ เซ็นสัญญา GESAC รัฐวิสาหกิจจีน ขายที่ดิน 56 ไร่ พร้อมเช่าโรงงานสำเร็จรูป 4700 ตารางเมตร ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 1 ใจกลาง EEC เทงบลงทุน 2.5 พันล้านบาท สร้างฐานผลิตในไทย ชี้สงครามการค้าหนุนจีนขยับออกต่างประเทศเร็วขึ้น “จรีพร” แย้มไตรมาส 4/62 จ่อคิวหลายราย หลังนักลงทุนตางชาติ-จีนตบเท้าขอดูข้อมูลนิคมฯ ทุกสัปดาห์กว่า 10 ราย มั่นใจยอดขายที่ดินปีนี้เข้าเป้า 1,400 ไร่ หนุนผลงานฉลุย

น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) กล่าวว่า บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ ในเครือ WHA ลงนามในสัญญา 2 ฉบับร่วมกับบริษัท โกลเดน อีเกร็ต ซีเมนต์ คาร์ไบด์ (ไทยแลนด์) จำกัด (GESAC) ในเครือบริษัท เซียะเหมิน โกลเดน อีเกร็ต สเปเชียล อัลลอย จำกัด ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในประเทศจีน ประกอบด้วยสัญญาซื้อขายที่ดินจำนวน 56 ไร่ และสัญญาเช่าโรงงานสำเร็จรูป พื้นที่ 4,700 ตารางเมตร เป็นระยะเวลา 3 ปี ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 1 ที่อยู่ในพื้นที่เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายในโครงการพัฒนาอีอีซี โดย GESAC จะใช้โรงงานสำเร็จรูปดังกล่าวเพื่อเริ่มกระบวนการผลิตในระหว่างการก่อสร้างโรงงาน

“การลงนามในวันนี้เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ในการนำเสนอโซลูชั่นที่ครบวงจรให้แก่นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ ซึ่งการเช่าโรงงานสำเร็จรูป (RBF) ด้วยในครั้งนี้จะช่วยให้ GESAC สามารถเริ่มดำเนินการผลิตได้ทันที ในระหว่างการก่อสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ในนิคมฯ ของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ปและถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทที่เป็นรัฐวิสาหกิจของจีนเข้ามาลงทุน ในนิคมของบริษัท ที่ตั้งอยู่ในใจกลาง EEC “น.ส.จรีพร กล่าว

ทั้งนี้ ทาง GESAC จะใช้งบในการลงทุนราว 2,500 ล้านบาท หรือราว 81.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการดำเนินงานในประเทศไทยในระยะเวลา 3-4 ปี ข้างหน้า

สำหรับบริษัท GESAC ก่อตั้งขึ้นในปี 2532 เป็นบริษัทในเครือบริษัท เซียะเหมิน ทังสเตน กรุ๊ป ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจสัญชาติจีน ที่เป็นผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายผงทังสเตน ซีเมนต์คาร์ไบด์ และเครื่องมือสำหรับงานตัดประเภทต่างๆ ทาง GESAC ยังเป็นผู้ผลิตซีเมนต์คาร์ไบด์คุณภาพสูง

นายเจียง เทา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โกลเดน อีเกร็ต ซีเมนต์ คาร์ไบด์ (ไทยแลนด์) กล่าวว่า หลังเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ทำให้แผนการขยายการลงทุนจากจีนออกไปต่างประเทศของกลุ่มบริษัทตัดสินใจเร็วขึ้นกว่าเดิม โดยเหตุผลที่เลือกมาตั้งในนิคมของกลุ่ม WHA เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารจัดการและดำเนินงานด้านนิคมอุตสาหกรรม พร้อมบริการและได้รับความไว้วางใจากลูกค้าที่ยอดเยี่ยม รวมถึงความพร้อมของระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ดีเยี่ยม รวมกับระบบสาธารณูปโภคและพลังงานระดับพรีเมี่ยมของดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 1 เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทจัดสินใจเลือกเข้ามาลงทุนสร้างโรงงานผลิตในไทย เพราะโรงงานแห่งนี้จะตั้งอยู่ใจกลาง EEC ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่การดำเนินธุรกิจของบริษัท

น.ส.จรีพร กล่าวอีกว่า หลังเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนจีน เข้ามาขอข้อมูลในนิคมฯ ของบริษัททุกสัปดาห์มากกว่า 10 ราย ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่าบริษัทฯ คือ ผู้ประกอบการที่ให้บริการครบวงจรใน EEC และเชื่อมั่นว่า EEC จะนำพาประเทศไทยและเศรษฐกิจไทยให้เติบโต

อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯ มีลูกค้าเตรียมเซ็นสัญญาและโอนที่ดิน ซึ่งอยู่ระหว่างรอสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) อนุมัติสิทธิด้านการลงทุน ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ประกอบการจากจีนและไต้หวันที่เข้ามาซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น จึงมั่นใจว่ายอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมในประเทศจะทำได้ตามเป้าหมาย 1,400 ไร่

“ไตรมาส 4/62 น่าจะเป็นไตรมาสที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดของปีนี้ เพราะจะมีการโอนที่ดินเข้ามามาก รวมถึงมีแผนขายสินทรัพย์มูลค่า 4.8 พันล้านบาทเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART)”น.ส.จรีพร กล่าว

นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนออกหุ้นกู้อายุยาวมากขึ้นจากเดิมอายุ 5 ปี, 7 ปี เป็น 10 ปี เพื่อลดต้นทุนทางการเงินของบริษัทในช่วงอัตราดอกเบี้ยอยู่ในขาลง ซึ่งจะทำให้ต้นทุนดอกเบี้ยของบริษัทลดลงจากปัจจุบันอยู่ที่ 3.7% ต่อปีได้

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) แนะนำซื้อ WHA ราคาพื้นฐาน 4.92 บาท โดยกำไรไตรมาส 2/62 ออกมาดีกว่าคาดไว้เดิมถึง 25% เป็น 1.05 พันล้านบาท โตกระโดด 247% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 159% จากไตรมาส 1/61เพราะธุรกิจนิคม และไฟฟ้าของบริษัทร่วมเติบโต

สำหรับช่วงครึ่งปีแรกของปี 62โต 35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและเป็นสัดส่วนเพียง 43% จากประมาณการปี 62 เพราะครึ่งปีหลังยังจะโอนนิคมฯได้มาก รวมตลอดปีโอนได้ 1,051 ไร่ และมีการขายสินทรัพย์เข้ากอง REITs ในงวดไตรมาส 4/62 อีก 5,750 ล้านบาท แบ่งเป็นการขายใน 2 ส่วนคือ ขายให้ WHARTและ HREIT

ด้านยอดขายนิคมฯ ในครึ่งปีแรกทำได้ 300 ไร่ คิดเป็น 21% จากเป้าขายปีนี้ในไทยที่ 1,400 ไร่ (เวียดนามอีก 200 ไร่) คาดว่าหลังจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จจะมียอดขายดีขึ้น อีกทั้งมีการกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดนิคมฯที่เวียดนาม กำลังเจรจาแห่งที่สอง และสนใจตลาดคลังสินค้าให้เช่าที่อินโดนีเซีย อีกทั้งยังได้รับประโยชน์จากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน มีการย้ายฐานการผลิตมาไทยมากขึ้น ทำให้มีความต้องการซื้อนิคมฯเพิ่ม

อ่านประกอบ

WHA กำไรทะยาน 247% มั่นใจครึ่งหลังโตต่อ จ่อเซ็นสัญญาล็อตใหญ่