คาดตลาดขึ้นเล็กน้อย หุ้นในปท.เด่น เลือกตัวราคาลงมาเยอะ

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้น 11 ก.ย. คิงส์ฟอร์ด คาดทรงตัว แนะซื้อเก็งกำไร BJC, TNP, CENTEL, SPA ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ  บล.ฟินันเซีย ไซรัส  คาดแกว่งตัว แนวต้าน 1,680  แนะนำ TACC แบงก์ถูก SCB-KBANK  บล.เคทีบีฯ คาดรีบาวด์ เลือกรายตัว  เน้นราคาลงมามาก PTT, SCC, BEM, WHA, THANI, CENTEL, ORI, VGI , PRM, STEC

บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มตลาดหุ้นวันที่ 11 ก.ย. ดัชนีทรงตัว มีแนวรับ 1,660 จุด แนวต้าน 1,675 -1,680 จุด ระหว่างรอผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป( ECB) และธนาคารกลางสหรัฐ( FED) แนะนำซื้อเก็งกำไร BJC, TNP, CENTEL, SPA ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
นักลงทุนยังรอผลการประชุม ECB ในวันพฤหัสนี้ ซึ่งคาดจะปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารกับ ECB ลงมาอยู่ที่ -0.50 % แต่ยังต้องรอประเมินว่าจะมีแถลงถึงมาตรการ QE เพิ่มเติมหรือไม่ ขณะที่เศรษฐกิจยูโรโซนยังเผชิญความเสี่ยงความไม่แน่นอนของ Brexit ส่วนการเจรจาการค้านั้น จีนยื่นของเสนอจะซื้อสินค้าเกษตรสหรัฐเพิ่มมากขึ้น แลกกับข้อห้ามบริษัทสหรัฐซื้อขายสินค้ากับหัวเว่ย โดยการเจรจาจะเกิดขึ้นใน ต.ค. นี้ จากความเสี่ยงปัจจัยต่างประเทศที่ลดลง ส่งผลให้อัตราผลตอบพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี และ 2 ปี เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1.718 % , 1.67 % ตามลำดับ

บล.ฟินันเซียไซรัสคาดจะแกว่งตัว Sideways ออกด้านข้างต่อเนื่อง ยังมีแนวต้านระยะสั้นบริเวณ 1,680 จุด โดยตลาดยังจับตาการประชุม ECB และ FED ในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ รวมถึงพัฒนาการของประเด็น Brexit และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ซึ่งจากการเคลื่อนไหวของดัชนีที่เริ่มจำกัดมากขึ้น ทำให้เริ่มเห็นการเปลี่ยนกลุ่มที่นำตลาดอย่างกลุ่มสื่อสารฯและกลุ่มอาหาร ไปยังกลุ่มที่ Laggard และมี Valuation ถูกอย่างกลุ่มธนาคารรวมถึงคาดหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไป ทำให้มีโอกาสปรับตัวได้เด่นกว่าตลาดในระยะนี้ เรายังคงเน้นถือพอร์ตหลักเป็นหุ้น Domestic Play เช่นเดิม ขณะที่การดีดขึ้นของตลาดมองเป็นจังหวะทำกำไรระยะสั้นกลุ่ม Global Play บริเวณแนวต้าน 1,680-1,700 จุด

“วันนี้แนะนำ TACC ราคาเป้าหมาย 6 บาท ไม่ถูกกระทบจากภาษีความหวานที่จะเริ่มเก็บเป็น step 2 ในวันที่ 1 ต.ค. นี้เพราะปรับสูตรเรียบร้อยแล้ว แม้ไตรมาส 3 จะมีกำไรทรงหรือลดลงเล็กน้อย แต่มีแรงหนุนจากการออกเครื่องดื่มรสชาติใหม่ มี Stamp promotion และมีรายได้จากโถกด Hershey’s มากขึ้น รวมถึงรายได้จาก Character business ก็โตได้ดี คาดกำไรไตรมาส 4จะเป็นพีคของปีตามฤดูกาล และกำไรทั้งปีพุ่งขึ้น109%

“กลุ่มแบงก์ยังไม่มีข่าวดี ใดๆในระยะนี้นอกจากความถูก โดย P/BV ต่ำสุดในรอบ 10 ปี เช่น SCB มี P/E 8.3 เท่า P/BV 0.97 เท่า และจะมีกำไรจากการขาย SCBLife ซึ่งอาจนำมาปันผลพิเศษ เราคิดว่า SCB อยู่ในจุดที่น่าซื้อลงทุน ราคาเป้าหมาย 145 บาท เราชอบ KBANK เช่นกัน ราคาเป้าหมาย 190 บาท ทั้งนี้ วันนี้ KBANK และ BAY ขึ้น XD 0.50 บ/หุ้น และ 0.40 บ/หุ้น ตามลำดับ ”

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) คาดดัชนีฯ มีโอกาส rebound เจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน และสหรัฐเตรียมลดดอกเบี้ย ลดการถือครอสินทรัพย์ที่เป็น safe Haven ลงอย่างต่อเนื่อง มีข่าวว่าจีนกำลังต่อรองสหรัฐฯด้วยการจะซื้อสินค้าเกษตรมากขึ้นและลดข้อจำกัดในการถือหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศลงด้วย
กลยุทธ์ลงทุน จึงยังเลือกเป็นรายตัว ให้น้ำหนักกับหุ้นที่จะมีแรงซื้อกลับจากความกังวลต่อสงครามการค้าที่ลดลง และหุ้นที่ราคาอ่อนตัวลงมามาก ประกอบด้วย PTT, SCC, BEM, WHA, THANI, CENTEL, ORI, VGI และเพิ่ม PRM, STEC เข้ามา โดย STEC (ซื้อ, เป้าเชิงกลยุทธ์ 20 บาท) – ราคาต่ำจนน่าสนใจลงทุน เป้าเชิงกลยุทธ์ให้ 20 บาท