โนมูระลุ้นเป้าปีนี้ 1,887 จุด เงินท่วมเอเชีย เชียร์พลังงาน-อิเล็กทรอนิกส์

HoonSmart.com>>โลกผ่อนคลายลง จีนยกเลิกขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐอัตรา 25 %   เปิดทางเงินต่างประเทศเข้าลงทุนมากขึ้น โนมูระพัฒนสินคาดเงินไหลเข้าจีนและเอเชีย หนุนค่าเงินแข็ง ดัชนีหุ้นปีนี้ 1,800 จุด ดีสุดมีโอกาสไปถึง 1,887 จุด เน้น PTT,PTTGC,TOP ดอกเบี้ยต่ำ ต้องลุย SAWAD ,JMART บล.เอเซียพลัส ยก PTT ราคาถูก  ส่วน”ไฟฟ้า-มือถือ”ไม่น่าสนใจ  “วิรัตน์ เอื้อนฤมิต” ซีอีโอคนใหม่ TOP ประกาศเพิ่มพอร์ตปิโตรเคมีมากขึ้น 

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส อ้างถึง สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าทางการจีนประกาศยกเลิกการขึ้นภาษีนำเข้ากับสหรัฐอัตรา 25 % บางส่วนราว 16 สินค้า อาทิ ยา ,น้ำมันหล่อลื่น, อาหารปลา, สารกำจัดศัตรูพืช (ซึ่งอยู่ในวงเงินที่ขึ้นภาษีนำเข้าเก็บกับสหรัฐในรอบที่ 1 และ 2 วงเงินรวม 6 หมื่นล้านเหรียญฯ) และจะมีผลทันทีวันที่ 17 ก.ย.2562- 16 ก.ย. 2563 แต่ภาษีนำเข้าที่เก็บสินค้าอื่นๆยังมีอยู่ตามเดิม โดยรวมถือเป็นพัฒนาการเชิงบวกประเด็นสงครามการค้า ถือเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดหุ้น

นอกจากนี้เริ่มเห็นสัญญาณการไหลกลับของเงินลงทุนเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น สะท้อนผ่านการดีดตัวสูงขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล( Bond Yield) 10 ปี ของสหรัฐฯ และไทยขึ้นมาอยู่ที่ 1.718% และ 1.663% ตามลำดับในเช้าวันที่ 11 ก.ย. ขณะที่ราคาทองคำปรับลดลงมาต่ำกว่า 1,490 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หากเห็นการไหลกลับของเข้าสู่ตลาดหุ้นอย่างชัดเจนอีกรอบ รวมถึงมาตรการกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม และโลจิสติกส์ หุ้น เด่น ได้แก่ AMATA มูลค่าเหมาะสม 35.70 บาท JWD มูลค่า 12.30 บาท และ PTT ให้มูลค่า 53 บาท

ปัจจุบันราคาหุ้น PTTปรับตัวลงมามาก มี Upside สูงถึง 16.48% คาดหวังปันผลได้สูงถึง 4.5% ต่อปี นอกจากนี้ใกล้เข้าสู่ช่วงประกาศการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล โดยปกติแล้วหุ้นปันผลสูงมักจะเพิ่มขึ้นได้ดีหลังจากวันประกาศจ่ายเงินปันผลถึงวันขึ้น XD ถือเป็นแรงผลักดันราคาหุ้นอีกแรง จึงถือเป็นโอกาสดีในการสะสมลงทุน

ทางด้าน บล.โนมูระ พัฒนสิน (CNS) วิเคราะห์ว่า จีนยื่นข้อเสนอที่จะซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐเพิ่มขึ้น และประกาศจะยกเลิกการจำกัดโควตาการลงทุนสำหรับโครงการนักลงทุนสถาบันต่างชาติที่มีคุณสมบัติเหมาะสม (QFII) และโครงการนักลงทุนสถาบันต่างชาติที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับการใช้สกุลเงินหยวน (RQFII) เพื่อเปิดตลาด และปฏิรูปตลาดการเงินของจีน คาดว่าจะทำให้เม็ดเงินไหลเข้าจีนอย่างมีนัย ทำให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นหนุนค่าเงินเอเชียแข็งค่าด้วย จะทำให้เกิดภาพของเงินทุนไหลเข้าเอเชียได้ เป็นจิตวิทยาบวกต่อเอเชียเด่น รวมถึงประเทศไทยยังรับจุดเปลี่ยนการเมืองไทย และโอกาสถูกยกระดับประเทศ ภายใต้นโยบายการเงินผ่อนคลายของธนาคารกลางโลก กำลังผลักดันให้เงินทุนไหลหนุนตลาดหุ้นไทยเป็นขาขึ้นรอบใหม่ CNS วางดัชนีเป้าหมายปีนี้ ที่ระดับ 1,800 จุด อิง P/E 16.7เท่า และกรณี best Case ที่ 1,887 จุด หากมีเงินไหลเข้าอย่างมีนัยฯ และมีโอกาสที่ ดัชนีจะทำจุดสูงสุดใหม่ช่วงครึ่งหลังปี2563

นอกจากนี้นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป ( ECB) วันที่ 12 ก.ย. 2562 โนมูระคาดปล่อยมาตรการชุดใหญ่

“ความสี่ยงของโลกลดลง ภาพรวมยังคงสดใส เกิดภาพเม็ดเงินลงทุนไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งพันธบัตร และทองคำ อย่างต่อเนื่อง กลุ่มพลังงานน่าจะฟื้นตัวต่อเนื่องใน 1 – 2 เดือน PTT, TOP, PTTGC เด่น ส่วนกลุ่มธนาคาร อาจถูก Cover กลับ หลัง Bond Yield โลกเริ่มดีดกลับ รับคลายกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย เน้น SCB, KBANK ”

สำหรับการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ในสัปดาห์หน้า กลุ่มที่ได้อานิสงส์บวกดอกเบี้ยต่ำ ได้แก่ 1. สินเชื่อบุคคล SAWAD, AMANAH, JMART 2. หุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนปันผลสูง เช่น ADVANC, INTUCH, KKP 3.อสังหาริมทรัพย์ AP, SPALI 4. ส่งออกอาหาร CPF 5. ท่องเที่ยว MINT, AOT, ERW 6.นิคมอุตสาหกรรม AMATA, WHA 7. โรงไฟฟ้า BGRIM, GUNKUL 8.การบริโภค CPALL, KAMART, ICHI, ZEN

สำหรับกลุ่มมือถือราคาหุ้นปรับตัวลงแย่กว่าตลาด ทั้ง ADVANC , DTAC , TRUE และ INTUCH ซึ่งเกือบทุกบริษัทเริ่มไม่มี upside เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายปี 2563 แต่ยังคงมีมุมมองที่ดีเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของผลการดำเนินงานใน ครึ่งหลังของปีนี้ จะกลับมาเติบโต คาด EBITDA margin ADVANC ฟื้นตัวเด่นสุดในกลุ่มมือถือ

” เราคงน้ำหนักการลงทุนเท่ากับตลาดต่อกลุ่มมือถือ โดยระยะสั้น คาดกำไรรวมจะกลับมาตามอานิสงส์การแข่งขันที่ลดลง เลือก ADVANC ราคาเป้าหมาย 260 บาท และ INTUCH จุดเด่นเรื่องอัตราผลตอบแทนปันผลที่สูงสม่ำเสมอ 4-5%/ปี ฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง”บล.โนมูระพัฒนสินระบุ

บล.ธนชาต วิเคราะห์ว่ากลุ่มที่จะได้ผลดีจากภาพโลกที่ดีขึ้น อย่างกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี และอิเล็กรทอนิกส์ มีจังหวะ “เก็งกำไร” PTTGC ที่ มูลค่าต่ำ P/BV เพียง 0.8เท่า , PTTEP ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นช้ากว่าตลาด และกลุ่มมาก ขณะที่จะมีกำลังการผลิตเพิ่มในครึ่งปีหลัง รวมถึงหุ้น PTT และ HANA

นอกจากนี้กลุ่มธนาคารที่มีมูลค่าลงมามากอาจดีดตัวได้ดีจนถึงต้นเดือน ต.ค. แนะนำเล่นหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาช้ากว่ากลุ่ม อย่าง SCB

นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ซึ่งเพิ่งเข้ามารับตำหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไทยออยล์ (TOP) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจะเปลี่ยนผ่านธุรกิจจากโรงกลั่นน้ำมันไปสู่ธุรกิจปิโตรเคมีมากขึ้น ตามความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น การเพิ่มพอร์ตการลงทุนธุรกิจปิโตรเคมีจะยังเป็นการสร้างความยั่งยืนในอนาคต คาดหวังจะมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในสัดส่วน 50:50 จากปัจจุบันที่ EBITDA ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน