น้ำมันพุ่ง หนุนหุ้นพลังงานคึก ส่วนทองแค่รีบาวด์ รอ”เฟด”ชี้นำ

HoonSmart.com>>ซาอุดิอาระเบียหยุดผลิตน้ำมันลงประมาณ 50% เพียงไม่กี่วัน วงการคาดจะกระทบปริมาณการผลิตเกือบ 5 ล้านบาร์เรล/วัน ผลักดันราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น  ส่งผลบวกต่อหุ้นพลังงาน-ทองคำ เอ็มทีเอส โกลด์ฯ คาดทองแค่รีบาวด์ ทดสอบ 1,500 ดอลลาร์ ตลาดรอผลประชุมเฟด ถ้าลดดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด ราคาจะนิ่ง แนะนำให้รอย่อ เก็บแถว 1,475 และ 1,480 ดอลลาร์ ค่าเงินบาทแข็งกระทบการปรับราคาขายในประเทศ แนะลงทุนผ่าน TFEX

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ซาอุดิอาระเบียได้หยุดการผลิตน้ำมันลงประมาณครึ่งหนึ่งของทั้งหมด หลังจากแหล่งผลิตน้ำมันดิบแห่งหนึ่งของบริษัทน้ำมันแห่งชาติ ตกเป็นเป้าการโจมตีโดยเครื่องบินโดรน ทั้งนี้การหยุดผลิตเพื่อเป็นการป้องกันมากกว่าไม่ใช่ว่าไม่สามารถผลิตได้ หากทุกอย่างเรียบร้อย น่าจะกลับมาผลิตได้ภายใน 1-2 วัน

หนังสือพิมพ์ วอลสตรีท เจอนอล รายงาน โดยอ้างแหล่งข่าวในวงการน้ำมันว่า การปิดโรงผลิตน้ำมันของซาอุดิอาระเบียครั้งนี้จะกระทบต่อผลผลิตน้ำมันดิบเกือบ 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือประมาณ 5% ของผลผลิตรวมของโลก

ทางด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยกรณีโรงงานที่ทำหน้าที่กำจัดสารต่างๆ ที่ไม่ต้องการ ก่อนส่งต่อไปยังผู้ซื้อของบริษัทอารามโค( Aramco) รัฐวิสาหกิจน้ำมันยักษ์ใหญ่ของซาอุดีอาระเบียถูกโจมตีว่า กระทรวงพลังงานได้สอบถามไปยังบริษัท อารามโค และผู้เกี่ยวข้องต่างๆ ในเบื้องต้นทุกอย่างอยู่ในการควบคุมได้ และอยู่ระหว่างสำรวจและประเมินความเสียหาย โดยยังไม่มีผลกระทบต่อการส่งออก เพราะโรงงานที่ถูกไฟไหม้อยู่ในบริเวณทะเลทราย จึงไม่มีผลกระทบต่อคลังน้ำมันที่เป็นแหล่งน้ำมันที่ป้อนให้กับทางกลุ่ม ปตท. จึงยังไม่กระทบต่อการนำเข้าน้ำมันของไทย อย่างไรก็ดี กระทรวงพลังงานมีแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินไว้เรียบร้อยแล้ว

ขณะที่นักวิเคราะห์ไทยคาดว่าราคาน้ำมันดิบล่วงหน้ามีโอกาสปรับตัวขึ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้ จะส่งผลบวกต่อหุ้นพลังงาน สำหรับการซื้อขายหุ้นวันที่ 16 ก.ย. 2562

ส่วนราคาทอง นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประธานฝ่ายบริหาร บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ กล่าวในงานเสวนาเรื่อง ” เงินบาทแข็ง ทองผันผวน เล็งทางรุก หาทางรอดด้วย TFEX ” จัดโดยบริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) หรือ TFEX เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2562 ที่ผ่านมา ว่า ราคาสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้ามักจะปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า แต่รอบนี้น่าจะเป็นเพียงการรีบาวด์เท่านั้น เนื่องจากราคาทองได้ปรับตัวขึ้นมามากพอสมควรแล้ว และตลาดรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในวันที่ 17-18 ก.ย.นี้ หากมีมติปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% อย่างที่ตลาดคาดการณ์ ก็ไม่น่าจะมีผลต่อราคามากนัก คาดจะทดสอบระดับ 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ แต่แนวโน้มยังอยู่ในช่วงขาขึ้น น่าจะปรับตัวขึ้นถึง 1,550 ดอลลาร์ภายใน 1 ปีนี้

“ทองยังน่าซื้อเพื่อการลงทุน เพราะธนาคารกลางทุกประเทศมีการซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธนาคารจีนมีการแอบเก็บมากกว่าที่ประกาศออกมา ที่ผ่านมาแม้ว่าราคาได้ปรับขึ้นมามาก แต่การขึ้นแบบขั้นบันได มีการขึ้นและพัก สร้างฐานที่แน่น ทดสอบ 1,500 ดอลลาร์ นอกจากนี้ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจที่สุด เพราะไม่เชื่อว่าสหรัฐและจีนจะคุยเรื่องปัญหาการค้าได้ จึงไม่น่าจบลงเร็ว ถ้าหากเศรษฐกิจยุโรปมีปัญหาจะดีกับทอง และสหรัฐก็เริ่มจะลดลง คำแนะนำแนวรับบริเวณ 1,475และ 1,480 ดอลลาร์สหรัฐ น่าทยอยเก็บได้ แต่หากหลุด 1,475 ดอลลาร์ให้ขายเพื่อหยุดขาดทุน  รอแนวรับใหม่ 1,450 ดอลลาร์” นายณัฐพงศ์กล่าว

อย่างไรก็ตาม จีนมีการย้ายฐานการผลิตมาเอเชียใต้ ทั้งที่ประเทศไทยและเวียดนาม ทำให้ค่าเงินบาทแข็งมาก จะมีต่อราคาขายในประเทศ เช่น ทองควรจะขึ้นได้บาทละ 500 บาท แต่ปรับจริงเพียง 300 บาท ดังนั้นในชวงนี้จึงแนะนำให้ซื้อขายทองในตลาด TFEX ที่ไม่มีเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนมาเกี่ยวข้องจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่มีอัตราทด ดังนั้นนักลงทุนจะต้องเข้าเร็วออกเร็ว และมีวินัยการลงทุน ต้องรู้จักขายตัดขาดทุน