ก.ล.ต.ไทย-กัมพูชาเชื่อมตลาดทุนสำเร็จ กระตุ้นธุรกิจอาเซียนตื่นตัว

HoonSmart.com>>ก.ล.ต.ไทยและกัมพูชาร่วมมือพัฒนาผลิตภัณฑ์ตลาดทุน เปิดประตูให้ธุรกิจนำหลักทรัพย์และดีอาร์ เข้าจดทะเบียนข้ามประเทศ หรือทั้งสองตลาดได้ง่ายและสะดวก เป็นโมเดลของอาเซียน คาดไม่เกินสิ้นปีจะเห็นบริษัทกัมพูชาเข้ามาเสนอขายหลักทรัพย์และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย 

ก.ล.ต. ไทย ร่วมกับ ก.ล.ต. กัมพูชา ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ความร่วมมือในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนทั้งสองประเทศ ในการเสนอขายหลักทรัพย์ ทั้งการจดทะเบียนข้ามประเทศ (cross listing) การจดทะเบียนพร้อมกันทั้งสองตลาด (dual listing) และการออกและเสนอขายตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ (DR) เพื่อผลักดันให้เกิดการเสนอขายหลักทรัพย์ที่เชื่อมโยงตลาดทุนไทยและกัมพูชาได้สำเร็จ ณ สำนักงาน ก.ล.ต. ประเทศไทย เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2562

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า การลงนาม MOU ในวันนี้ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ทั้ง ก.ล.ต. ไทย และ ก.ล.ต. กัมพูชาจะได้ร่วมกันผลักดันให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้บริษัทกัมพูชาและไทย ต่างสามารถเสนอขายหลักทรัพย์ในอีกประเทศหนึ่งได้ ภายใต้แนวทางที่กำหนด ซึ่งจะช่วยขยายธุรกิจ เพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายหลักทรัพย์ และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้กว้างขึ้น เป็นการปูทางไปสู่ความร่วมมือด้านตลาดทุนระหว่างกันและส่งเสริมให้ตลาดทุนไทยเป็นฐานของการระดมทุนของภูมิภาค สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580)

“ประตูของ 2 ประเทศกำลังจะเปิด บริษัทใดที่มีความพร้อม ส่งเอกสารเข้ามาได้  เท่าที่ทราบขณะนี้มีบริษัทหลายแห่งแสดงความสนใจ  กัมพูชาน่าจะเป็นประเทศแรกที่มีบริษัทมาเสนอขายหลักทรัพย์ต่อผู้ลงทุนไทยและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หวังว่าคงไม่เกินสิ้นปีนี้ ก้าวสำคัญของตลาดทุนของไทยและกัมพูชาจะกระตุ้นให้หลายประเทศตื่นตัว เรื่อง DR ทางเมียนมาร์ก็สนใจ เพราะเป็นประโยชน์ ความร่วมมือครั้งนี้นำไปสู่การเป็นต้นแบบของอาเซียน เสริมสร้างศักยภาพของภูมิภาคนี้ “นางสาวรื่นวดี กล่าว

H.E. Mr. Sou Socheat, Director General of Securities and Exchange Commission of Cambodia (SECC) กล่าวว่า การลงนาม MOU ฉบับนี้เป็นการเพิ่มทางเลือกในการระดมทุนให้แก่กิจการทั้งในกัมพูชาและไทยให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน ขยายธุรกิจ และเพิ่มสภาพคล่องจากการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์มากกว่าหนึ่งแห่ง รวมถึงการมีฐานผู้ลงทุนที่กว้างขึ้น นอกจากนี้ เชื่อมั่นว่า MOU ฉบับนี้จะเป็นต้นแบบที่ดีของความร่วมมือระหว่างกันในภูมิภาค เพื่อให้ตลาดทุนในภูมิภาคเติบโตไปด้วยกัน