บลจ.กสิกรไทยจ่ายปันผล 4 กองอสังหาฯ กว่า 160 ลบ.

HoonSmart.com>> บลจ.กสิกรไทย ปันผล 4 กองอสังหาฯ กว่า 160 ล้านบาท ได้รับอานิสงส์จากดีมานด์และอัตราค่าเช่ามีแนวโน้มสูงขึ้น

นายวิทวัส อัจฉริยวนิช รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย จ่ายปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จำนวน 4 กองทุน สำหรับรอบผลการดำเนินงานตั้งแต่ 1 ม.ค. – 30 มิ.ย. 62 จำนวน 1 กองทุน คือ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลด์ (GOLDPF) ในอัตรา 0.1900 บาทต่อหน่วย

สำหรับรอบผลการดำเนินงานตั้งแต่ 1 เม.ย. – 30 มิ.ย. 62 จำนวน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เคพีเอ็น (KPNPF) ในอัตรา 0.1100 บาทต่อหน่วย กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตล์ (MJLF) ในอัตรา 0.2000 บาทต่อหน่วย และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา (CTARAF) ในอัตรา 0.0805 บาทต่อหน่วย

พร้อมกันนี้กองทุน CTARAF ได้คืนเงินลดทุนครั้งที่ 9 ในอัตรา 0.0434 บาทต่อหน่วย โดยทั้ง 4 กองทุนมีกำหนดจ่ายปันผลพร้อมกันในวันที่ 19 กันยายน 2562 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 164.58 ล้านบาท

นายวิทวัสกล่าวต่อไปว่า กองทุน GOLDPF มีนโยบายลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดินและอาคารเซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ ขนาด 162 ห้องของโครงการเดอะ เมย์แฟร์ แมริออท เอ็กเซคคิวทีฟ อพาร์ทเมนต์ ซอยหลังสวน ถนนเพลินจิต โดยในรอบครึ่งปีที่ผ่านมา มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 87.8% ซึ่งมีปัจจัยจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่ต้องการเข้าพักเพื่อรักษาตัวในระยะยาวก่อนกลับประเทศ ส่งผลให้กองทุนสามารถทำกำไรสุทธิจากการดำเนินงานได้ถึง 39.94 ล้านบาท

ทั้งนี้ นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมีการจ่ายปันผลและลดทุนรวมแล้วทั้งสิ้น 22 ครั้ง เป็นเงิน 5.5985 บาทต่อหน่วย หรือ คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุน 4.62% ต่อปี

ส่วนกองทุน KPNPF มีนโยบายลงทุนในกรรมสิทธิที่ดิน อาคารสำนักงาน และระบบสาธารณูปโภคของอาคารเคพีเอ็น ทาวเวอร์ บนถนนพระราม 9 ซึ่งตั้งอยู่บนทำเลที่ดี ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน อีกทั้ง ยังได้รับอานิสงส์จากแผนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มที่จะผ่านหน้าโครงการ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 ทำให้มีแนวโน้มความต้องการเช่าพื้นที่และโอกาสปรับอัตราเค่าเช่าในอนาคต

ทั้งนี้ นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมามีการจ่ายปันผลแล้วทั้งสิ้น 25 ครั้ง เป็นเงิน 3.1490 บาทต่อหน่วย หรือ คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุน 5.06% ต่อปี

ด้านกองทุน MJLF มีนโยบายลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารโครงการ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน และเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รังสิต ซึ่งทั้ง 2 โครงการมีลักษณะเป็นอาคารไลฟ์สไตล์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ ที่มีการจำหน่ายสินค้าและเป็นศูนย์รวมความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ อาทิ โรงภาพยนตร์ โบว์ลิ่ง ฟิตเนส ร้านอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น จึงทำให้โครงการมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ประกอบกับแผนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) ซึ่งได้เปิดใช้สถานีห้าแยกลาดพร้าวเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และคาดว่าจะเปิดใช้อีก 4 สถานีรวมถึงสถานีรัชโยธินภายในปลายปี 2563 จึงคาดการณ์ว่าจะส่งผลให้โครงการที่รัชโยธินมีแนวโน้มการปรับตัวของอัตราการเช่าพื้นที่และอัตราค่าเช่าพื้นที่โดยเฉลี่ยสูงขึ้น

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในรอบครึ่งปีที่ผ่านมา กองทุนสามารถทำกำไรสุทธิจากการดำเนินงานได้ 141.82 ล้านบาท โดยนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมามีการจ่ายปันผลแล้วทั้งสิ้น 48 ครั้ง เป็นเงิน 11.3080 บาทต่อหน่วย หรือ คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุน 9.40% ต่อปี

สำหรับกองทุน CTARAF มีนโยบายลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดินและอาคาร รวมถึงระบบสาธารณูปโภคของโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ท สมุย โรงแรมระดับ 5 ดาว ซึ่งตั้งอยู่บนเนื้อที่ 25 ไร่ บนหาดเฉวง เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมามีการจ่ายปันผลและลดทุนแล้วทั้งสิ้น 37 ครั้ง เป็นเงิน 6.5922 บาทต่อหน่วย หรือ คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุน 5.87% ต่อป