คอลัมน์ความจริงความคิด : ความเข้าใจ กับ ความจริง

โดย…สาธิต บวรสันติสุทธิ์, CFP

ผมเองเป็นคนที่ชอบวิ่งออกกำลังกายทุกเช้า เพราะเห็นเขาบอกกันว่า การวิ่งจ๊อกกิ้ง เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิค ดีต่อหัวใจ (ทำนองคนแก่แล้ว ถ้ายังไม่ชอบออกกำลังกายอีก เดี๋ยวโรคถามหา) ทีนี้วิ่งๆ ไปก็ชักเป็นห่วงเข่าว่าจะไหวมั๊ย ไม่ใช่วิ่งไป หัวใจแข็งแรง แต่เข่าพัง อย่างนี้ไม่เอา เพราะสุดท้ายก็จะวิ่งไม่ได้ จะป่วยทั้งหัวใจ ป่วยทั้งเข่า ก็เลยกะจะซื้อสนับเข่า (knee support) มาใช้เพื่อลดอันตรายของเข่า จะหาซื้อยี่ห้อไหนดี ก็ไม่พ้นต้องถาม google

คำตอบที่ได้มาสรุปก็คือ อย่าซื้อมาใช้ดีที่สุด เพราะมีคุณหมอบอกว่ายิ่งใช้ เข่าจะยิ่งพังเร็ว เพราะสนับเข่าจะทำให้กล้ามเนื้อรอบเข่าไม่ได้ทำงาน หรือทำงานได้ไม่สะดวกเท่าที่ควร ทำให้เข่าต้องรับน้ำหนักเต็มที่ เข่าจะยิ่งพังเร็ว อ้าว! ที่เข้าใจมาผิดทั้งเพ

อีกวัน ผมก็ได้อ่านข้อมูลจาก facebook ที่คนส่งมาแนะนำว่าอย่าเอาช้อนลวกน้ำร้อน โดยเฉพาะตามศูนย์อาหาร หรือโรงอาหารต่างๆที่จะมีหม้อหุงข้าวเปิดฝาบรรจุน้ำร้อนสำหรับให้ผู้บริโภคนำช้อนส้อมตะเกียบมาลวกเพื่อฆ่าเชื้อโรค กล่าวกันว่าการลวกช้อนมาฮิตจากการที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ใช้ในการควบคุมการระบาดของไวรัสตับอักเสบเอ

แต่ความจริง ก็คือ การทำลายเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ ต้องใช้อุณหภูมิที่สูงกว่า98 องศาเซลเซียส และใช้เวลานานถึง 4 นาที คำถามจึงมีอยู่ว่า ถ้าเช่นนั้น ลวกเพียงครู่เดียวแล้วได้อะไรขึ้นมา เพราะเราคงไม่ยืนจุ่มช้อนส้อมถึง 4 นาทีแน่ และอีกปัญหาของน้ำร้อนในหม้อหุงข้าวตามศูนย์อาหารทั่วไป ก็คือ อุณหภูมิน้ำไม่สูงพอที่จะทำลายเชื้อโรคได้ และด้วยความที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนน้ำใหม่ทุกชั่วโมง ดังนั้นนอกจากจะไม่ทำให้เชื้อโรคตาย ยังทำให้เชื้อโรคเพิ่มจำนวนมหาศาลสะสมอยู่ในน้ำนั้นอีกด้วย สรุปก็คือ อย่าได้เอาช้อนส้อมและตะเกียบไปจุ่มลงในน้ำร้อนอีกเลยจะปลอดภัย อ้าว! ที่เข้าใจมาผิดทั้งเพ (อีกแล้ว)

จริงๆแล้ว ในชีวิตเรา เราเข้าใจผิดในหลายๆเรื่องมากเลยทีเดียว ในเรื่องเกี่ยวกับการจัดการดูแลการเงินก็เช่นกัน ความเข้าใจผิดที่ผมพบอยู่บ่อยๆ ก็เช่น

– ฝากแบงค์ ปลอดภัยสุด ทำให้คนไทยที่มีเงินออมนิยมการฝากเงินกับธนาคารมากที่สุด และเงินฝากที่คนไทยนิยมมากที่สุด คือ เงินฝากออมทรัพย์ (ที่ให้ดอกเบี้ยต่ำที่สุดด้วยเช่นกัน) แม้ว่าเงินฝากธนาคารจะมีความเสี่ยงเรื่องการขาดทุนต่ำ แต่เพราะดอกเบี้ยที่ต่ำมากๆๆๆๆ ทำให้เงินฝากธนาคารมีความเสี่ยงสูงที่สุด เรื่องค่าของเงินที่ลดลงไปเรื่อยๆจากเงินเฟ้อ ดังนั้นหากเป็นการออมระยะยาว การฝากเงินธนาคารกลับเป็นการออมที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด เห็นได้จากคนไทยที่นิยมฝากเงินธนาคาร มักมีปัญหามีเงินไม่พอใช้ในระยะยาว

– วางแผนการเงินเป็นเรื่องของคนรวย จริงๆแล้วไม่ใช่เลยครับ คนทุกคนควรจะต้องวางแผนการเงินทั้งนั้น ถามว่าทำไมต้องวางแผน? เหตุผลง่ายๆ ก็คือ เมื่อเราเกิด เราย่อมหนีความแก่ ความเจ็บ ความตายไม่พ้น ปัญหาก็คือ หากเราไม่วางแผนการเงิน เมื่อเราแก่ เราจะเอาเงินที่ไหนใช้ เมื่อเราเจ็บ เราจะเอาเงินที่ไหนใช้ และเมื่อเราตาย ครอบครัวหรือคนที่เรารัก เช่น ภรรยาเรา ลูกเรา จะเอาเงินที่ไหนใช้ ดังนั้นการวางแผนการเงินจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคนครับ ยิ่งคนที่มีรายได้น้อย ยิ่งต้องวางแผนมาก เพราะชีวิตยิ่งต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในอนาคตมาก

– ออมเงินเพื่อเกษียณ สำคัญที่สุด อย่าให้เงินต้นหาย (อย่าขาดทุน) หลายครั้งที่ผมบรรยายด้านการเงิน โดยเฉพาะการวางแผนการเงินเพื่อเกษียณอายุ เมื่อถามว่ามีใครที่มีการออมเงินเพื่อเกษียณอายุแล้วบ้าง น้อยคนนักที่มี ส่วนใหญ่จะออมเงินแต่ไม่มีเป้าหมายว่าออมเงินเพื่ออะไร ส่วนใหญ่จะมีแค่เป้าหมายว่าเดือนหนึ่งๆจะออมให้ได้กี่บาท เมื่อเป้าหมายระยะยาวไม่มี โอกาสที่จะประสบความสำเร็จสำหรับเป้าหมายการเงินระยะยาวย่อมน้อยลงไปด้วย

นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่คำตอบจากการถามคนเกษียณอายุในปัจจุบันว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อยากทำอะไร คำตอบหนึ่ง ก็คือ อยากออมเงินเพื่อเกษียณอายุมากกว่านี้ และเมื่อถามต่อไปอีกว่า เงินที่ออมเพื่อเกษียณอายุ ส่วนใหญ่ออมในอะไร คำตอบที่ได้ ส่วนใหญ่ก็จะออมโดยการฝากเงินในธนาคาร (อีกหล่ะ) โดยเหตุผลที่เลือกออมเงินโดยฝากธนาคาร ก็เพราะกลัวเงินต้นหาย หากถามว่าตอนเราออมเพื่อเกษียณ เรากลัวอะไรมากกว่ากัน ระหว่าง มีเงินไม่พอใช้ หรือ กลัวเงินต้นหาย ส่วนใหญ่จะตอบว่า มีเงินไม่พอใช้ อ้าว! แล้วอย่างนั้นฝากแบงค์ทำไม เพราะดอกเบี้ยจากการฝากแบงค์ต่ำมาก ไม่สามารถช่วยให้เรามีเงินพอใช้ยามเกษียณได้เลย เมื่อเราตั้งโจทย์ผิด การแก้ปัญหาก็ผิดตามไปด้วย ดังนั้น เมื่อความเสี่ยงที่เราควรกลัวมากที่สุด คือ มีเงินไม่พอใช้ ไม่ใช่กลัวเงินต้นหาย การออมเงินเพื่อเกษียณจึงควรลงทุนในการลงทุนที่ป้องกันเงินเฟ้อได้ดี เช่น หุ้น เป็นต้น

จะเห็นนะครับว่า ความเข้าใจ กับ ความจริงหลายๆครั้งตรงข้ามกัน ดังนั้นก่อนตัดสินใจอะไร ควรศึกษาหาข้อมูล และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ ให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ไขครับ