BAY ไตรมาส 3 กำไร 6.5 พันลบ. เพิ่ม 5.6% คาดสินเชื่อปีนี้โตกรอบบน 6-8%

HoonSmart.com>> แบงก์กรุงศรี โชว์กำไรไตรมาส 3/62 กว่า 6,564 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% จากงวดปีก่อน ส่วนงวด 9 เดือน พุ่ง 41% บันทึกกำไรขายหุ้นเงินติดล้อ หากไม่มีรายการพิเศษกำไรดำเนินงานโต 9% รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยดี สินเชื่อโต หนี้เสียลดเหลือ 2.01% จาก 2.08% สิ้นปี 61 ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ชี้ผลงานไตรมาส 3 ต่ำคาดเล็กน้อย ปรับเป้าหมายทั้งปีเพิ่มขึ้น 9% หลัง 9 เดือนออกมาดี

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 6,564.38 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.89 บาท เพิ่มขึ้น 5.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 6,214.61 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.84 บาท

ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 26,311.32 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 3.58 บาท เพิ่มขึ้น 40.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 18,702.51 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.54 บาท

ในงวดไตรมาส 3/2562 ธนาคารมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจาการเพิ่มขึ้นของกำไรจากการดำเนินงานสุทธิด้วยการเพิ่มขึ้นของค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ โดยมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 830 ล้านบาท หรือ 5.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ที้งนี้ส่วนใหญ่มาจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสียและกำไรจากการจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย

ทั้งนี้ เมื่อเทียบไตรมาส 2/2562 กำไรสุทธิลดลง 446 ล้านบาท หรือ 6.4% โดยส่วนใหญ่เป็นผลจากการลดลงของกําไรจากการดําเนินงานและการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยของค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ สอดคล้องกับนโยบายการตั้งสํารองด้วยความรอบคอบระมัดระวังในช่วงสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

ส่วนงวด 9 เดือนปี 2562 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 40% มีปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ทีมิใช่ดอกเบี้ยจากการบันทึกกําไรจากการขายหุ้นจํานวน 50% ของบริษัท เงินติดล้อ จํากัด ในไตรมาส 1/2562 และการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิตามการขยายตัวของเงินให้สินเชือที่แข็งแกร่งที่ 6.4% จากสิ้นเดือนธ.ค.2561 หากไม่รวมรายการพิเศษที่เกิดขึ้นในไตรมาส 1/2562 กําไรสุทธิจากการดําเนินธุรกิจตามปกติจะอยู่ที่ 20,503 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.6% หรือจํานวน 1,800 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน

เงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่ 1,778,561 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106,543 ล้านบาท หรือ 6.4% จากสิ้นเดือนธ.ค.2561 โดยการเติบโตของสินเชือครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ ซึ่งสินเชือเพือรายย่อยยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักโดยเพิ่่มขึ้น 54,513 ล้านบาท หรือ 6.9% ขณะทีสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชือเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพิมขึ้น 30,998 ล้านบาท หรือ 5.0% และจํานวน 21,032 ล้านบาท หรือ 8.4% ตามลําดับ

เงินรับฝากมีจํานวน 1,495,047 ล้านบาท เพิมขึ้นจํานวน 68,699 ล้านบาท หรือ 4.8% จากสิ้นเดือนธ.ค.2561 โดยส่วนใหญ่มาจากการเพิมขึ้นของเงินรับฝากประจํา รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ 40.0% หรือจํานวน 10,205 ล้านบาท เมือเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากการบันทึกกําไรจากการขายหุ้นของบริษัท เงินติดล้อ จํากัด และส่วนแบ่งกําไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย

อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพปรับตัวดีขึ้นอยู่ที 2.01% ณ สิ้นเดือนก.ย.2562 จาก 2.08% ณ สิ้นเดือนธ.ค.2561 นอกจากนี้ธนาคารกรุงศรีมีเงินสํารองจํานวน 66,874 ล้านบาท โดยมีสํารองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ที่จํานวน 21,970 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญตามเกณฑ์สํารองของธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ที่ 148.9% ขณะทีอัตราส่วนเงินสํารองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพปรับสูงขึ้นเป็น 167.0% จาก 160.8% ณ สิ้นเดือนธ.ค.2561

นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ภายใต้สภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย กรุงศรีมีกำไรสุทธิที่โดดเด่นในงวด 9 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น 40.7% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 ผลประกอบการที่แข็งแกร่งแสดงถึงศักยภาพของกรุงศรีในการบริหารจัดการพอร์ตสินเชื่ออย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม ส่งผลให้มีการเติบโตของสินเชื่อที่ต่อเนื่อง รวมถึงการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย

นายอาคิตะ กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจโดยรวม ว่า จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลต่ออุปสงค์ภายในประเทศและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ กรุงศรีคาดว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากที่ประเมินไว้ก่อนหน้า โดยปรับลดประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจไทยลงมาอยู่ที่ 2.9% จาก 3.2% อย่างไรก็ตาม จากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะยังคงเกื้อหนุนต่อการเติบโตของเศรษฐกิจต่อเนื่องในไตรมาส 4 กรุงศรีคาดว่าการขยายตัวของสินเชื่อสำหรับปี 2562 จะอยู่ในกรอบบนของเป้าหมายที่ 6-8%

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า BAY กำไรสุทธิงวดไตรมาส 3/2562 น้อยกว่าคาดราว 3% จากการตั้งสำรองฯ ค่าเผื่อหนี้สูญที่สูงกว่าที่คาดซึ่งเกิดจาก NPL ที่เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายการตลาดและการประชาสัมพันธ์ที่มากกว่าคาด รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิที่ลดลง

ส่วนกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกคิดเป็น 85% ของทั้งปี จึงปรับคาดการณ์กำไรสุทธีปี 2562 ขึ้น 9% เป็น 3.26 หมื่นล้านบาท ส่วนปี 2563 คงเดิมที่ 2.6 หมื่นล้านบาท เติบโต 20% จากงวดเดียวกันปีก่อน (ปี 2562 มีการขายเงินลงทุนในเงินติดล้อ) คงราคาเหมาะสมปี 2563 ที่ 38.50 บาท คงแนะนำ ซื้อ

ข่าวอื่นๆ

BBL กำไรเฉียด 9.5 พันล้าน โต 4.52% ค่าฟีหนุน สินเชื่อหดตัว 0.8% ไตรมาส 3

KTB กำไรทรุด 19% เหลือ 6,345 ลบ. เจอตั้งสำรองเกษียณพนักงาน

SCB ฟาดกำไร 1.48 หมื่นลบ. พุ่ง 40% บุ๊กขายธุรกิจประกัน ตั้งสำรองเพิ่ม

KTC สำรองหนี้ฉุดกำไร Q3/62 หดสวนรายได้เพิ่ม งวด 9 เดือนโต 8%

TISCO กำไร Q3 โต 3.5% สำรองหนี้ลด 9 เดือนโกย 5.4 พันลบ.

LHFG ไตรมาส 3/62 กำไร 766 ลบ. ลด 1.6%