ตลาดหุ้นกลับสู่ในช่วงขาลงมาหลายเดือนแล้ว ลงอย่างเต็มตัว และระยะสั้นมีแนวโน้มที่จะลงต่อ โดยดัชนีราคาหุ้น ตลาดหลักทรัพย์หลุดจากระดับ1850 จุด ถอยลงมายืนที่ระดับ1734 จุด แต่ยังทำนายไม่ได้ว่า จุดต่ำสุดในรอบนี้จะอยู่ที่เท่าไหร่
แม้แนวโน้มระยะสั้น ดัชนีฯมีโอกาสปักหัวลง แต่ระดับราคาหุ้นที่ปรับฐานลงม้วนเดียว เริ่มถึงจุดที่น่าสนใจ น่าเสี่ยง และน่าหาจังหวะซื้อเหมือนกัน
ข่าวร้ายที่กระหน่ำใส่หุ้นรอบนี้ มีทั้งปัจจัยภายในและภายนอก ปัจจัยภายใน เป็นเรื่องสถานการณ์การเมืองที่ร้อนระอุขึ้น มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนที่อยากเลือกตั้ง เพราะกลัวว่า กุมภาพันธ์ปีหน้า อาจยังไม่ได้เลือกตั้ง และความกังวลกับปัญหาเศรษฐกิจ
ส่วนปัจจัยภายนอกเหลือเพียงประเด็นเดียว ความกังวลแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐซึ่งเป็นชนวนที่ทำให้ต่างชาติเทขายหุ้นอย่างต่อเนื่องจากต้นปี โดยมียอดขายสุทธิสะสมทั้งสิ้น119,178.14 ล้านบาท สร้างสถิติใหม่ ฝรั่งขายไม่เลี้ยงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นซึมซับรับข่าวร้ายไปพอสมควรแล้ว เพียงแต่ยังปรับฐานไม่สะเด็ดน้ำเท่านั้น แต่ลงใกล้ถึงก้นเหวแล้ว ถ้าไม่มีข่าวร้ายซ้ำเติม ดัชนีฯแถว1700 จุดอาจปักหลักได้
ค่าพี/อี เรโชเฉลี่ยของตลาดหุ้น ยืนอยู่ที่ระดับ 17.73 เท่า ส่วนอัตราเงินปันผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่2.91% โดยราคาหุ้นที่ปรับตัวลง ทำให้ปัจจัยพื้นฐานเริ่มแข็งขึ้น จากที่เคยเปราะบาง ช่วงที่ดัชนีฯทะลุขึ้นไประดับ1850 จุด
ไม่มีใครรู้ว่า การปรับฐานของตลาดหุ้นแต่ละรอบ จุดต่ำสุดจะอยู่ที่ใด และดัชนีฯระดับปัจจุบัน อาจยังไม่น่าเข้าไป “วัดดวง”เท่าไหร่ แต่หลังจากนี้ หากราคาหุ้นทรุดลงต่อ ความน่าสนใจจะมีขึ้น
ตลาดหุ้นโดยภาพรวมยังตั้งหลักไม่ได้ แต่หุ้นรายตัวเริ่มฟื้น ราคาเด้งกลับ และกำลังปรับสู่ช่วงขาขึ้น แม้หุ้นบางกลุ่ม เพิ่งเริ่มต้นสู่ช่วงขาลงก็ตาม โดยเฉพาะกลุ่มปตท.ที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ทรุดฮวบและการลดน้ำหนักการลงทุนของต่างชาติ
ไม่มีสัญญาณใดบ่งชี้ว่า การปรับฐานกำลังจะสิ้นสุด ไม่มีความเคลื่อนไหวที่บ่งชี้ว่า ฝรั่งขายหุ้นหมดมือแล้ว แต่ดัชนีฯที่ร่วงลงกว่า 100 จุด อาจทำให้นักลงทุนบางส่วน อดคันไม้คันมือไม่ไหว และรอคอยจังหวะเข้ามา “สอยหุ้น”เก็บอยู่
วันนี้อาจไม่ใช่เวลาสะสมหุ้น แต่น่าจะเป็นช่วงเวลาสะสมเงินมากกว่า สะสมไว้เพื่อรอคอยโอกาสเหมาะๆ ช้อนซื้อหุ้นเก็บไว้
ช่วงเวลาการขายหุ้น น่าจะป่านพ้นไปแล้ว ส่วนช่วงเวลาการซื้อหุ้น แม้ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ แต่จังหวะเหมาะใกล้เข้ามาแล้ว
นักลงทุนที่พอร์ตว่าง ต้องสำรองเงินสดไว้ เพราะนาทีทองของการซื้อหุ้นกำลังจะเกิดขึ้น ไม่มีใครบอกได้ว่าเมื่อไหร่ แต่ดัชนีฯที่ถอยกรูดลงมายืนแถว1700 จุดต้นๆ เป็นจุดที่นักลงทุนต้องออกมาเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นอย่างใกล้ชิด
นับจากนี้ ถ้าหุ้นลงและลงแรงๆ อาจต้องเริ่มต้นทยอยออกอาวุธ เลือกเฟ้นหุ้นเก็บสะสมเข้าพอร์ต เพราะอัตราความเสี่ยงน้อยเต็มที
จะฟันกำไรกันเป็นกอบเป็นกำ ต้องใจถึงๆ ชิงจังหวะเก็บหุ้นในช่วงขาลงนี่แหละ