SCCC กำไร 936 ลบ. โต 5.4% ราคาปูนเพิ่ม-ค่าใช้จ่ายลด

HoonSmart.com>> “ปูนซีเมนต์นครหลวง” ไตรมาส 3/62 กำไรสุทธิ 935 ล้านบาท เติบโต 5.4% จากงวดปีก่อน ส่วน 9 เดือนกำไรหด 2.3% เหตุสำรองค่าใช้จ่ายพันกงานฉุด หากไม่รวมกำไรโต 4.9%

บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง (SCCC) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2562 กำไรสุทธิ 935.64 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 3.14 บาท เพิ่มขึ้น 5.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 887.37 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.98 บาท

ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2562 กำไรสุทธิ 2,677.73 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 8.99 บาท ลดลง 2.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 2,741.58 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 9.20 บาท ทั้งนี้ หากไม่รวมการตั้งสำรองซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายครั้งเดียวสำหรัยเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงานฉบับใหม่ที่บันทึกไว้ในไตรมาส 2 จำนวน 249 ล้านบาท เท่ากับ 2,877 ล้าน บริษัทฯจะมีกำไรสุทธิ 2,877 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 9.65 บาท เติบโต 4.9% จากงวดปีก่อน

ในงวดไตรมาส 3/2562 บริษัทฯ มีรายได้สุทธิ 11,953 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.9% จากงวดปีก่อน โดยผลประกอบการของธุรกิจปูนซีเมนต์ในประเทศเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นและสนับสนุนการเติบโตของกำไรของกลุ่มบริษัทฯ ในไตรมาส 3/2562 โดยความต้องการปูนซีเมนต์ในประเทศไทยมีสัญญาณของการหดตัวโดยได้รับผลกระทบจากการลงทุนภาคเอกชนที่ชะลอตัวและเหตุการณ์อุทกภัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อย่างไรก็ตามราคาปูนซีเมนต์ที่ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อน ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงและผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธุรกิจคอนกรีตผสมเสร็จ ส่งผลให้กำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น

ด้านตลาดหลักในต่างประเทศยังคงเผชิญกับแรงกดดันด้านความสามารถในการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง เนื่องมาจากต้นทุนในการนำเข้าวัถตุดิบสูงขึ้นและความท้าทายด้านการตลาด ทำให้ไม่สามารถกำหนดราคาสินค้าให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจ

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า กำไรสุทธิของ SCCC ในไตรมาส 3/2562 ดีกว่าประมาณการของเคจีไอ 6.2% เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นสูงเกินคาด แต่เป็นไปตาม Bloomberg consensus ทั้งนี้ กำไรสุทธิงวด 9 เดือน ปี 2562คิดเป็น 81.7% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเคจีไอ โดยคาดว่าอุปสงค์ปูนซีเมนต์ในประเทศจะฟื้นตัวขึ้นในปี 2563 เป็น +1% (จาก 0% ในปีนี้)

เนื่องจาก 1) การลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) มีความชัดเจนมากขึ้น (โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน และเมืองการบินอู่ตะเภา) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเชื่อมมั่นในการลงทุนของภาคเอกชน และ 2) การอนุมัติงบประมาณรายจ่ายรับบาลปี 2563 จะช่วยให้เกิดการประมูลโครงการภาครัฐตั้งแต่ 2Q63 เป็นต้นไป เรายังคงคำแนะนำซื้อ และให้ราคาเป้าหมายปี 2563 ที่ 274 บาท อิงจากพีอี เฉลี่ยระยะยาวที่ 21.0 เท่า