หุ้น MTC ร่วงสวนกำไรเพิ่ม โบรกฯ มอง loan yield ไม่โตเหมือนอดีต

HoonSmart.com>> นักลงทุนขาย MTC แม้โชว์งบไตรมาส 3/62 กำไรเพิ่ม “เคจีไอ” ชี้ผลงานต่ำกว่าคาด เหตุค่าใช้จ่าย ดอกเบี้ยสูง ห่วงธุรกิจไม่โตเหมือนอดีต เหตุฐานสูงขึ้น แนะระมัดระวังลงทุน รอซื้อเมื่ออ่อนตัว เป้า 52.50 บาท ด้าน “หยวนต้า” แนะเก็งกำไรให้ราคา 64 บาท ส่วนฟินันเซียฯ มองต่าง ให้เป้า 68 บาท ด้าน “ชูชาติ เพ็ชรอำไพ” มั่นใจไตรมาส 4/62 สดใส หนุนนิวไฮต่อเนื่อง

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น MTC (เมืองไทย แคปปิตอล) เช้าวันที่ 6 พ.ย.2562 ปรับตัวลงกว่า 4% หรือ 2.50 บาท ตั้งแต่เปิดตลาด ราคาลงมาแตะ 57 บาท และ ณ เวลา 10.14 น. อยู่ที่ 58.75 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ -1.26% ซื้อขายสูงเป็นอันดับสองของตลาดมูลค่า 454.97 ล้านบาท และระหว่างเทรดลงไปต่ำสุด 56.75 บาท ก่อนมีแรงซื้อกลับหนุนราคาดีดขึ้นไปแตะสูงสุด 59 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า กำไรสุทธิของ MTC ในไตรมาส 3/2562 อยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท (+6% QoQ และ +12% YoY) ต่ำกว่าประมาณการของเคจีไอ 3% และต่ำกว่า consensus 5% เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และดอกเบี้ยสูงเกินคาด แต่ credit cost ก็ลดลงอย่างมาก

ทั้งนี้ กำไรสุทธิงวด 9 เดือน ปี 62 คิดเป็น 73% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเคจีไอ และคิดเป็น 71% ของ consensus ถึงแม้ว่าอัตราผลตอบแทนสินเชื่อ (Loan yield) จะเริ่มแสดงสัญญาณว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว แต่เคจีไอคิดว่า loan yield สินเชื่อจะไม่กลับไปอยู่ระดับเดียวกับในอดีตที่ 24%

นอกจากนี้เคจีไอมองว่าธุรกิจนี้จะไม่โตเหมือนในอดีตเนื่องจากฐานที่สูง และอัตราการใช้งานสาขาก็อยู่ในระดับที่สูงแล้ว ทั้งนี้ เนื่องจาก PEG สูงกว่า 1.0 เท่า แล้ว จึงยังคงระมัดระวัง และซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว สำหรับราคาเป้าหมาย 52.50 บาท

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดกำไรของ MTC จะยังสามารถทำ New high ได้ต่อในช่วงไตรมาส 4/2562 แต่ด้วยราคาหุ้นที่ปรับขึ้นต่อเนื่องจนเหลือ Upside เพียง 7.6% จากมูลค่าพื้นฐานปี 63 ที่ 64 บาท ทำให้ยังคงคำแนะนำเพียง “Trading”

บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองว่า MTC กำไรไตรมาส 3/2562 ใกล้เคียงเราและตลาดคาด อยู่ที่ 1,080 ลบ. +6% Q-Q, +12%Y-Y ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารรวมถึงต้นทุนทางการเงินเริ่มปรับขึ้น แต่รายได้ดอกเบี้ยและการเติบโตของสินเชื่อที่ทำได้ดีกว่าคาด หักล้างต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ การมุ่งมั่นในการจัดการกับ NPL ที่เพิ่มขึ้นใน 2Q19 เห็นผล โดย NPL ใน 3Q19 ลดลงต่ำที่สุดในรอบ 12 ไตรมาสมาอยู่ที่ 0.98% ขณะที่ coverage ratio แข็งแกร่งที่ 296%

“คงประมาณการปีนี้และปีหน้าที่คาด +13% Y-Y และ 26% Y-Y ตามลำดับ คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสมปี 2563 ที่ 68 บาท”บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุ

บล.ทิสโก้ ปรับมูลค่าที่เหมาะสมเพิ่มขึ้นจาก 59 บาท เป็น 65 บาท (GGM) คิดเป็น พีอี ที่ 25.8 เท่า และ PBV ที่ 6.7 เท่า ในขณะที่มองว่า NPL ในอนาคตจะลดลงต่ำกว่า 1% และการตั้งสำรองอาจได้รับผลกระทบจาก IFRS9 ในปี 2563 แต่ด้วยราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นมากกว่าตลาดแสดงถึงปัจจัยบวกที่รับรู้ไปมากแล้ว แนะนำให้ “ถือ”

ด้านนายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/62 เป็นที่น่าพอใจเช่นทุกไตรมาสที่ผ่านมา โดยไตรมาสนี้มีกำไรสุทธิ 1,080 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากงวดเดียวกันปีก่อน ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 3,304 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากงวดเดียวกันปีก่อน

สำหรับในงวดผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2562 มีกำไรสุทธิ 3,106 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15 % จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,711 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 9,233 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 7,595 ล้านบาท เนื่องจากพอร์ตสินเชื่อของบริษัทฯ เติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 29% จากการเปิดสาขาใหม่

“ภาพรวมการดำเนินธุรกิจช่วง 9 เดือนแรกปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แม้ว่าก่อนหน้านี้ เราจะมีความกังวลเรื่อง NPL ที่อาจมาพร้อมกับภัยธรรมชาติในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่เราก็เพิ่มความระมัดระวังในการปล่อย และการติดตามหนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากความสำเร็จในผลการดำเนินงานของไตรมาสนี้ ที่ NPL ของเราลดไปต่ำกว่า 1% แต่พอร์ตสินเชื่อโตได้ตามเป้า ในขณะเดียวกัน ก็สามารถเพิ่มจำนวนสาขาได้ทะลุเป้าหมาย 3,900 สาขา ดังนั้นเราจึงสามารถรักษาการเติบโตของกำไรไว้ได้ โดยเฉพาะช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ปัจจัยทุกอย่างเป็นบวก และยังอยู่ในทิศทางที่ดี จากการความต้องการสินเชื่อในไตรมาส 4 ที่คาดว่าจะสูงขึ้น ตลอดจนได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นการบริโภค และได้ประโยชน์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลง ทำให้มั่นใจว่า ภาพรวมของผลการดำเนินงานปีนี้ ยังสามารถทุบสถิติสูงสุดได้ต่อเนื่อง”นายชูชาติ กล่าว

นายชูชาติ กล่าวต่อว่า บริษัทฯตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อปีนี้จะเติบโตระดับ 25-30% และมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไม่เกิน 2% โดยในครึ่งปีหลังยังให้ความสำคัญกับการดูแลบริหารคุณภาพหนี้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของไทยมีทิศทางที่ชะลอตัว

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความคืบหน้า ธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ บริษัทฯได้เริ่มทำธุรกิจภายใต้ “บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด” ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการทดสอบตลาดอีกซักระยะก่อนที่จะขยายธุรกิจให้มากขึ้น โดยจะใช้ฐานลูกค้าจำนวนมากกระจายทั่วประเทศประมาณ 2 ล้านราย และจะช่วยให้สินเชื่อขยายตัวได้ต่อเนื่อง

อ่านข่าว

MTC ไตรมาส 3/62 กำไร 1.08 พันล.โต 12% รายได้เพิ่ม-หนี้เสียลด