PTTGC กำไร 2,663 ลบ. ลดฮวบ 79% ตามคาด Q3/62

HoonSmart.com>>พีทีที โกลบอล เคมิคอล กำไรฟื้นจากไตรมาส 2   แต่ลดลงจากไตรมาส 3/61   ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์แคบลงได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า ขาดทุนสต๊อกน้ำมันอีก 372 ล้านบาท ส่วนเงินบาทแข็งช่วยกำไรอัตราแลกเปลี่ยน 436 ล้านบาท 

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) เปิดเผยผลประกอบการงวดไตรมาสที่ 3/2562 มีกำไรสุทธิเพียง 2,663 ล้านบาท ลดลงจำนวน 10,129 ล้านบาทคิดเป็นประมาณ 79% จากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 12,792 ล้านบาท แต่เพิ่มขึ้น 21%จากไตรมาส 2  โดยมีรายได้จากการขาย 105,154 ล้านบาท ลดลง 1% จากไตรมาส 2/2562 และลดลง 23% จากไตรมาส 3/2561

ส่วนผลงานรวม 9 เดือนปีนี้กำไรสุทธิ 11,308 ล้านบาท ลดลงจำนวน 24,700 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 69% เทียบกับกำไรที่ทำได้จำนวน 36,008 ล้านบาทในช่วงเดียวกันปีก่อน

กำไรที่ดีขึ้นจากไตรมาส 2 เกิดจากปริมาณการขายที่ปรับตัวสูงขึ้นตามอัตราการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของธรุกิจอะโรเมติกส์ที่เสร็จสิ้นการปิดซ่อมบำรุงตามแผนของโรงอะโรเมติกส์หน่วยที่ 1 และส่วนต่างของผลิตภัณฑ์โรงกลั่นและส่วนต่างของผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์สูงขึ้น

อย่างไรก็ตามรวม 9 เดือนกำไรลดลง 69% เป็นผลจากราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีลดลงจากผลกระทบของสงครามการค้าเป็นหลัก สำหรับส่วนต่างของผลิตภัณฑ์โรงกลั่นเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล-น้ำมันดิบดูไบ เป็นผลจากมาตรการการลดการใช้น้ำมันเตากำมะถันสูงในธุรกจิเดินเรือตามนโยบายของ International Marine Organization (IMO) และส่วนต่างของน้ำมันเตา-น้ำมันดูไบที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญส่งผลให้ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันมีค่าการกลั่น (GRM) เพิ่มขึ้นจาก 3.46 เหรียญสหรฐัฯ ต่อบาร์เรล ในไตรมาสก่อนมาอยู่ที่ 4.40 เหรียญสหรฐัฯ ขณะที่ธุรกิจอะโรเมติกส์ ส่วนต่างผลิตภัณฑ์เบนซีนกับคอนเดนเสทดีขึ้นจากความต้องการผลิตผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ

อย่างไรก็ตาม ผลจากการเปลี่ยน Catalyst ในไตรมาส 2 ทำให้ได้ผลผลิตพาราไซลีนมากขึ้น ส่งผลให้กำไรขั้นต้น หรือ Product to Feed margin (P2F) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 136 เหรียญสหรัฐต่อตัน จาก 75เหรียญต่อตันในไตรมาสก่อน หรือเพิ่มขึ้น 83%

สำหรับธุรกิจโอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง ราคาผลิตภัณฑ์โพลีเอทิลีนยังคงได้รับผลกระทบจากการชะลตัวของเศรษฐกิจ และมีแนวโน้มลดลงตลอดไตรมาส ส่งผลให้ Adjusted EBITDA margin ของธุรกิจโอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องลดลงมาอยู่ที่ 15 %ทำให้ Adjusted EBITDA ของบริษัทฯ ในไตรมาส 3 อยู่ที่ 7,441ล้านบาท ลดลง 2% จากไตรมาส 2/2562 และลดลง 56% จากไตรมาส 3/2561 ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนมาอยู่ที่ 1,173 ล้านบาท ลดลง 9% จากไตรมาส 2/2562

ทั้งนี้ในไตรมาส 3 บริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 436 ล้านบาท จากค่าเงินบาทแข็ง แต่รับรู้ผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันและการกลับรายการขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงคลังให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับขาดทุนรวม 372 ล้านบาท