AWC หมดกรีนชูฯ ราคาหลุดจอง กองทุนกระหน่ำขายกดตลาดดิ่ง 15 จุด

HoonSmart.com>>หุ้น AWC ดิ่งหลุดจอง หลังหมดกรีนชู ฯ พยุงราคา  กองทุนกระหน่ำขายกว่า 4.4 พันล้านบาท กดดัชนีตลาดหุ้น ร่วง 15 จุด ด้าน PTTEP แจงไตรมาส 3 โตจากความสำเร็จซื้อโครงการบงกช และ Murphy ที่มาเลเซีย

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 11 พ.ย.2562 ปิดที่ระดับ 1,622.12 จุด ลดลง 15.73 จุด หรือ -0.96% มูลค่าการซื้อขาย 47,552.38 ล้านบาท

นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 4,499.55 ล้านบาท ด้านนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 886.18 ล้านบาท บัญชีบล.ซื้อสุทธิ 891.13 ล้านบาทและนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,722.24 ล้านบาท

ภาพรวมดัชนีปรับตัวลงไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน นอกจากความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังโดนัลด์ ทรัมป์ไม่เห็นด้วยยกเลิกภาษี ประกอบกับสถานการณ์ชุมนุมในฮ่องกงรุนแรงขึ้นฉุดดัชนีลงกว่า 2% แล้ว แรงขายหุ้นบิ๊กแคปในประเทศ เช่น IVL หลังกำไรไตรมาส 3/62 ต่ำกว่าคาดมาก ทำให้นักลงขายหุ้น รวมถึง AWC ไอพีโอขนาดใหญ่ที่ร่วงแรงหลังหมดกรีนชูวันแรก ทำเซนทิเม้นท์ตลาดไม่สดสดไปอีก

สำหรับหุ้น AWC  ช่วงเช้าราคายืนเหนือจองที่ 6.05 บาท กระทั่งเปิดตลาดภาคบ่าย นักลงทุนตื่นเทขายฉุดราคาไหลต่ำจอง ลงไปลึก 5.25 บาท ลดลง 0.80 บาท หรือ 13.22 % ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายหนาแน่น และปิดที่ 5.40 บาท ลดลง 0.65 บาท หรือ 10.74 % มูลค่าซื้อขายอันดับ 1 ของตลาด 3,131.74 ล้านบาท

สาเหตุที่ AWC ตกหนักต่ำกว่าราคาจอง 6 บาท เนื่องจากเป็นวันที่ AWC ไม่มีกรีนชู ออฟชั่น (Greenshoe option ) พยุงราคาหุ้น เป็นวันแรกหลังจากหมดกรีนชู ฯ วันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา อีกทั้ง AWC ไม่ได้เข้าคำนวณในดัชนี MSCI อย่างที่คาดการณ์กันไว้

ด้านนาง ชนมาศ ศาสนนันทน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน  บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) กล่าวถึง ปริมาณการขาย ใน 9 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 12% จาก 9 เดือนของปีที่แล้ว สาเหตุจากความสำเร็จเข้าซื้อโครงการบงกชและการเข้าซื้อกิจการ Murphy ที่มาเลเซีย จะช่วยให้ไตรมาส 4 เพิ่มขึ้นอีกด้วย D/E Ratio อยู่ที่ 0.18 เท่า

ขณะที่ราคาแก๊สทั้งปี 62 คาดว่าจะอยู่ที่ 6.9 เหรียญ ยังถือว่าแข็งแกร่งอยู่ Unit Cost ปี 62 คาดว่าจะอยู่ 31 เหรียญในทั้งปีนี้ และ EBITDA Margin ปี 62 อยู่ในระดับ 70-75%

คาดการณ์ราคาน้ำมัน ยังคงอยู่ในระดับราคา 60-70 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ผลกระทบจาก IMO2020 มีผลกระทบน้อยต่อ PTTEP ในส่วนของโครงการลงทุนใหม่ในอนาคตที่มาเลเซีย และ เมียนมา ทั้ง 2 ประเทศนี้ ยังมีความต้องการใช้แก๊สที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“หลังจากที่มีการเข้าซื้อกิจการ Murphy ทำให้ในประเทศมาเลเซีย มีพื้นที่ที่ต้องขุดเจาะสำรวจเพิ่ม และการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าที่เมียนมา กำลังการคุยกันกับทางรัฐบาลเมียนมา น่าจะทราบถึงความก้าวหน้าในสิ้นปีนี้ โดยจะทำให้ในอีก 5 ปี ข้างหน้า บริษัทฯ จะมีการเติบโตทั้งด้านการผลิตและการขายเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 5-7%”

ปตท.สผ.  มีแผนเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธฺคล้ายทุน มูลค่า 600 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งหากเกณฑ์มาตรฐานทางบัญชีใหม่จะต้องมีการบันทึกในส่วนของ หนี้สิน จากเดิมที่ให้บันทึกเป็นส่วนทุน ทำให้ D/E Ratio จากเดินอยู่ที่ 0.18 เพิ่มขึ้นเป็น 0.25 อย่างไรก็ตามทางบริษัทฯ ยังสามารถกูเงินได้อีก เพราะมีนโยบาย D/E Ratio ไม่เกิน 1.5 เท่า

อ่านประกอบ :

https://hoonsmart.com/archives/84220