“เถ้าแก่น้อย” กำไร Q3/62 วูบ 47% เหลือ 69 ลบ.ลูกค้าจีนหด

HooSmart.com>>”เถ้าแก่น้อย” ไตรมาส 3/62 กำไรเหลือ 69 ล้านบาท วูบ 47% ฉุด 9 เดือนเหลือ 248 ล้านบาท ลด 43% รายได้ตลาดต่างประเทศลด 20% จีนยังไม่ฟื้น เปลี่ยนตัวแทนจำหน่ายในจีนเริ่มไตรมาส 4/62

บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 68.69 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.05 บาท ลดลง 46.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 128.78 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.09 บาท

ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2562 กำไรสุทธิ 248.42 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.18 บาท ลดลง 42.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 434.47 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.31 บาท

ในงวดไตรมาส 3/2562 มีกำไรสุทธิ 68.7 ล้านบาท คิดเป็น 5.4% ของรายได้จากการขาย ลดลง 3.4% จากงวดปีก่อนและลดลง 2.1% จากไตรมาส 2/2562 โดยมีสาเหตุหลักจากรายได้จากการขายลดลงในตลาดจีนและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรขั้นต้นมีจำนวน 341.7 ลา้นบาท คิดเป็น 27.0% ของรายได้จากการขาย โดยสัดส่วนกำไรขั้นต้นต่อยอดขายลดลง 2.2% จากงวดปีก่อนและลดลง 1.0% จากไตรมาส 2/2562 เนื่องจากเปลี่ยนผู้แทนจำหน่ายในจีน

บริษัทฯ มีรายได้จากการขายจำนวน 1,267.6 ล้านบาท ลดลง 12.8% จากงวดปีก่อนและลดลง 2.6% จากไตรมาสที่ผ่านมา โดยตลาดในประเทศรายได้เพิ่มขึ้น 548.7 ล้านบาท หรือ 0.5% จากงวดปีก่อน เพิ่มขึ้น 5.1% จากไตรมาสก่อนหน้าและมียอดขาย 9 เดือนแรกรวม 1,603.0 ล้านบาท เติบโต 2.5% จากงวดปีก่อน

รายได้เพิ่มขึ้นสาเหตุหลักมาจากการขยายธุรกิจร้านข้าวแกงกะหรี่ Hinoya และการเปิดร้านเถ้าแก่น้อยแลนด์ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญถึงแม้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเติบโต 1.7% จากงวดปีก่อน ทำให้ตลาดกลุ่มดังกล่าวไม่เติบโตตามคาด อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังรักษาส่วนแบ่งการตลาดเฉลี่ย 69% ของตลาดขนมขบเคี้ยวประเภทสาหร่าย

ด้านตลาดต่างประเทศ มีรายได้จากการขาย 719.0 ล้านบาท ลดลง 20.9% จากงวดปีก่อนและลดลง 7.8% จากไตรมาส 2/2562 และมียอดขาย 9 เดือนแรก 2,247.0 ล้านบาท ลดลง 8.7% จากงวดปีก่อน

ทั้งนี้ ช่วงไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทอยู่ระหว่างดําเนินเปลี่ยนผ่านผู้แทนจำหน่ายในจีนกับพันธมิตรที่มีเครือข่ายกระจายสินค้าครอบคลุมผู้แทนจำหน่ายในประเทศจีน กับพันธมิตรใหม่ที่มีเครือข่ายการกระจายสินค้าครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทฯ โดยเริ่มไตรมาส 4 นี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตลาดจีนคิดเป็น 35% ของรายได้จากการขายรวม และมีอัตราลดลง 16.2% จากงวดปีก่อน

อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังมียอดเติบโตต่อเนื่องในหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ อินโดนีเซีย และกลุ่ม ประเทศ CLMV (กัมพูชา/ลาว/เมียนมาร์/เวียดนาม) เป็นต้น

ด้านราคาหุ้น TKN ณ เวลา 10.07 น. อยู่ที่ 10.80 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ -2.70% มูลค่าซื้อขาย 65.70 ล้านบาท