SAPPE โชว์ 9 เดือนแรกกำไร 352.8 ลบ. Q3/62 ยอดขายโต 29% มั่นใจปีนี้โตตามเป้า

HoonSmart.com>>เซ็ปเป้’ โชว์ผลงานไตรมาส 3/2562 ทำรายได้ 833.5 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 101.3 ล้านบาท สำหรับงวดผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2562 ทำรายได้ 2,568.7 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 352.8 ล้านบาท เดินหน้าพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ที่ดูแลสุขภาพผู้บริโภคเป็นหลัก พร้อมทยอยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงที่เหลือของปี เตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตปี 2563

นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ (SAPPE) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2562 มีรายได้รวม 833.5 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 28.6% ที่มีรายได้ 648.2 ล้านบาท โดยมีปัจจัยมาจากการเติบโตของยอดขายตลาดต่างประเทศ และความสำเร็จของเครื่องดื่มผสมวิตามินแบรนด์ B’lue ซึ่งเป็นความร่วมมือกับบริษัทระดับโลกอย่าง Danone Group ทั้งยังสามารถรับรู้รายได้เต็มไตรมาสจากการเพิ่มสัดส่วนลงทุนใน ออล โคโค สอดคล้องกับแผนงานการเติบโตที่ 20% ตามที่วางไว้

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีกำไรสุทธิ 101.3 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 50.8% ที่มีกำไรสุทธิ 67.2 ล้านบาท โดยแม้บริษัทฯ จะเผชิญกับสกุลเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น กดดันต่อกำไรขั้นต้นของธุรกิจต่างประเทศ แต่บริษัทฯ ได้บริหารจัดการภายในเพื่อลดอัตราการสูญเสียในการผลิต ลดต้นทุนในส่วนที่ไม่จำเป็น และลดปริมาณการใช้พลาสติกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นถึง 50.5% เทียบกับตัวเลขเดียวกันของปีก่อนหน้า

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SAPPE กล่าวเพิ่มเติมว่าในช่วงปลายปีได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้แบรนด์ DeNosh  พุดดิ้งถั่วเหลือง และ Maxtive Banana Energy Jelly ที่ช่วยเติมพลังก่อนออกกำลังกาย รวมถึงเปิดตัวผลิตภัณฑ์น้องใหม่ภายใต้แบรนด์ B’lue ลัคกี้ ไลชี่ รสลิ้นจี่ เครื่องดื่มวิตามินรสชาติใหม่ ซึ่งทั้งหมดเป็นแผนงานที่วางไว้สำหรับการเติบโตของยอดขายทั้งในไทยและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องในปีหน้า

“นอกจากเรื่องยอดขายที่ยังคงเติบโตได้ตามแผนงาน เรายังให้ความสำคัญอย่างมากในเรื่องการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสนใจกับการลดต้นทุนระยะยาวเพื่อตอบโจทย์ในการพัฒนาธุรกิจของเราอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ เรายังคงมุ่งพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ และอาจได้เห็นสินค้าใหม่ๆ ที่เราร่วมพัฒนากับ Danone ในปีหน้า” นางสาวปิยจิต กล่าว