ดาวโจนส์ดีด 300 จุด หุ้นแบงก์รีบาวด์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones industrial average) ปิดตลาดวันที่ 30 พฤษภาคม ที่ 24,667.78 จุด เพิ่มขึ้น 306.33 จุด หรือ 1.26% จุด เพราะหุ้นกลุ่มธนาคารรีบาวนด์หลังร่วงแรงในวันก่อนหน้า หลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ขยับขึ้นเล็กน้อยไปอยู่ที่ 2.84% ขณะที่หุ้นเล็กก็ทะยานทำสถิติใหม่

หุ้นกลุ่มพลังงานได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 2% จากรายงานข่าวว่า ซาอุดิอาระเบียและประเทศสมาชิกกลุ่ม OPEC อื่นยังคงยึดข้อตกลงที่จะคงปริมาณการผลิตไปจนถึงสิ้นปี 2018

นักลงทุนคลายความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองในอิตาลีหลังจากที่มีรายงานข่าวว่าพรรคการเมืองใหญ่กำลังร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาล รวมไปถึงความสำเร็จในการออกพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลอิตาลีก็หนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุน

อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงติดตามความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน หลังจากที่ทีมงานสหรัฐเดินทางไปยังจีนเมื่อวันพุธเพื่อเตรียมการสำหรับการเยือนจีนของนายวิลเบอร์ รอสส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในปลายสัปดาห์นี้ ท่ามกลางรายงานข่าวว่าสหรัฐจะเปิดเผยรายชื่อสินค้านำเข้าของจีนในมูลค่า 50 พันล้านดอลลาร์ที่จะถูกเก็บภาษี

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,724.01 จุด เพิ่มขึ้น 34.15จุด, +1.27%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,462.45 จุด เพิ่มขึ้น 65.86 จุด, +0.89 %

ทางด้านตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวมาปิดบวก เพราะสถานการณ์ทางการเมืองในอิตาลีคลี่คลาย หลังจากที่มีรายงานข่าวว่าพรรคการเมืองใหญ่กำลังร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาล รวมไปถึงความสำเร็จในการออกพันธบัตรระยะยาวก็หนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อสถานะการเงินของรัฐบาลอิตาลี

นอกจากนี้ตลาดได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นกว่า 2% จากรายงานข่าวว่า ซาอุดิอาระเบียและประเทศสมาชิกกลุ่ม OPEC อื่นยังคงยึดข้อตกลงที่จะไม่เพิ่มปริมาณการผลิตไปจนถึงสิ้นปี 2018

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,689.57 จุด เพิ่มขึ้น 56.93 จุด, +0.75%

ดัชนี Stoxx Europe 600 index ปิดที่ 385.49 จุด, +0.3 %
ดัชนี DAX 30 ปิดที่12,783.76 จุด เพิ่มขึ้น 117.25 จุด, +0.93%

ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 5,427.35 จุด ลดลง 10.71 จุด, -0.20%