PTT ทำใจผลงานปีนี้ต่ำเป้า ไตรมาส 4 ราคาน้ำมันร่วง

HoonSmart.com>>ปตท.ยอมรับผลการดำเนินงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย คาดราคาน้ำมันดิบไตรมาส 4 ลดลงเหลือ 59-60 เหรียญสหรัฐ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จับมือ อีวีโซไซตี้ พัฒนาธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่อย่างครบวงจร บล. เอเซียพลัสส่อหั่นเป้ากำไรบจ.ปี 2562 หลัง 9 เดือน ทำได้ 6.96 แสนล้านบาท ลดลง 15.20% เจอเศรษฐกิจชะลอ บล.โนมูระพัฒนสิน คาดหุ้นเข้าใหม่ SET50-SET100 รอบนี้ แนะนำ 5 หุ้นเด่น KKP-TTW-THG-STPI-BGC

วันที่ 19 พ.ย. 2562 หุ้นครอบครัวปตท.ร่วงเกือบยกแผง นำโดย PTT ตามด้วย PTTEP, TOP ส่วน IRPC ,GPSC ปรับตัวขึ้นปลายตลาด ทำให้ราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน โดยนาง พรรณพร ศาสนนันทน์ ผู้จัดการฝ่ายผู้ลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไม่เป็นไปตามเป้า หมาย จากราคาน้ำมันดิบยังไม่แน่นอน คาดว่าในไตรมาส 4 จะอยู่ที่ 59-60 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลงจากไตรมาส 3 เฉลี่ยอยู่ที่ 61.2 เหรียญสหรัฐฯเพราะอุปทานจะเข้ามามาก ทั้งจากโรงกลั่นที่ปิดซ่อมบำรุงส่วนใหญ่ในไตรมาส 3 จะเปิดในเดือนต.ค. และสหรัฐเพิ่งสร้างท่อขนส่งน้ำมันเสร็จ ขณะที่เข้าสู่ฤดูหนาวทำให้ความต้องการใช้และปริมาณการขายเพิ่มขึ้นในตลาดโลก

อย่างไรก็ตามราคาดีเซลจะอยู่ที่ 17-18 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพราะ IMO2020 กำหนดให้ใช้น้ำมันเตาแค่ 2% สามารถนำดีเซลไปกลั่นกับน้ำมันเตาที่มี High Sulphur Fuel Oil ได้ ส่งผลให้มีความต้องการดีเซลมากขึ้น ในส่วนน้ำมันที่มีกำมะถันสูงจะไม่มีใครใช้ ทำให้ราคาปรับลดลงมาตั้งแต่ตุลาคม คาดไตรมาส 4 ราคาจะติดลบ 13 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ได้มีการปรับขึ้นราคา NGV ที่ขายให้กับรถสาธารณะอีก 1 บาท นับเป็นครั้งที่สอง และจะขึ้นอีกครั้งในเดือนม.ค. เป็นครั้งสุดท้าย

ส่วนการชนะประมูลมาบตาพุด เฟส 3 ในตอนแรกจะถมทะเล มูลค่า 12,900 ล้านบาท เพื่อทำการสร้าง LNG Terminal Phase 3 ความจุ LNG ประมาณ 5-8 ล้านตัน แต่ยังต้องพิจารณาการใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย มีความต้องการมากน้อยแค่ไหน คาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565 และ LNG Terminal Phase 2 ได้เริ่มดำเนินการไปเมื่อปีที่แล้ว ในส่วนโครงการท่าเรือ แหลมฉบัง เฟส3 มีผู้ร่วมประมูล 2 ราย

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2562 ที่ผ่านมา ปตท.มีกำไรสุทธิ 20,254 ล้านบาท ลดลง 5,700 ล้านบาทหรือ 22% เกิดจากกำไรขั้นต้นลดลง กำไรอัตราแลกเปลี่ยนลดลงเหลือ 2,000 ล้านบาท ขณะที่มีค่าใช้จ่ายภาษีลดลงตามด้วย 1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ มีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม (EBITDA) 6.7 หมื่นล้านบาท ลดลง 6,100 ล้านบาท หรือ 8% เกิดจากธุรกิจสำรวจและผลิตลดลง 1,800 ล้านบาทจากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง PTTEP มีการตัดหลุมขุดเจาะน้ำมันที่เมียนมา 3 หลุม เพราะคิดว่าไม่คุ้มค่า  ธุรกิจไฟฟ้าลดลง 700 ล้านบาท ธุรกิจน้ำมันลดลง มีค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายมากขึ้น  ธุรกิจการกลั่น กลุ่มมีขาดทุนจากสต็อก 1.7 เหรียญ/บาร์เรล ปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น เนื่องจากธุรกิจอะโรเมติกาส์เพิ่มขึ้น

ด้านนักวิเคราะห์ 14 ราย ให้ราคาหุ้นปตท.เฉลี่ย 52.11 บาท และราคากลาง 52 บาท โดยส่วนใหญ่ คือ 11 ราย แนะนำ”ซื้อ” บล.ทรีนีตี้ให้สูงสุด 60 บาท บล.ทิสโก้ให้ต่ำสุด 43 บาท

บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) จับมือ อีวีโซไซตี้ ร่วมพัฒนารูปแบบธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่อย่างครบวงจร

บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน(บจ.) 585 บริษัท คิดเป็น 92% ของมาร์เก็ตแคปทั้งตลาด (ไม่รวมงบรายปี อาทิ AOT จะประกาศวันที่ 29 พ.ย.) ทำกำไรสุทธิรวมกัน 2.13 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.7%จากไตรมาสที่ 2 แต่ลดลง 17.3%จากช่วงเดียวกันปีก่อน ทำให้ 9 เดือนแรกของปีนี้มีกำไรสุทธิ 6.96 แสนล้านบาท ลดลง 15.20% จากช่วงเดียวกันปีก่อน คิดเป็น 69.58% ของประมาณการฯ ปี 2562 จึงมีโอกาสปรับลดประมาณการกำไร บวกกับความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัว สะท้อนจากตัวเลขจีดีพีออกมาต่ำกว่าคาดอยู่ที่ 2.4% ในไตรมาส 3 ปัจจัยต่างประเทศที่ยังไม่แน่นอน ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนโฟกัสไปที่หุ้นที่ผลประกอบการมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องนับแต่นี้ไป เช่น KKP, CPN, EA, CPALL, FPT และ RS เป็นต้น

บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน (CNS) เปิดเผยว่าตลาดหลักทรัพย์จะประกาศรายชื่อหุ้นที่จะเข้าสู่การคำนวณ SET50-SET 100 ประมาณกลางเดือนธ.ค.นี้ เพื่อให้มีผลในรอบหน้า วันที่ 1 ม.ค.2562  คาดว่าจะเข้า SET50 มี 2 บริษัท KKP, TTW  และเข้า SET100 ได้แก่ WHAUP, THG, TQM, STPI, BGC  หากเล่นธีมนี้ แนะนำหุ้นเด่น KKP-TTW-THG-STPI-BGC

อ่านข่าว

OR ผนึก “อีวีโซไซตี้” พัฒนาธุรกิจบริการยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ครบวงจร