เอเซียพลัสหั่นเป้ากำไรบจ.ปี 62 ลง 3.7% มองปี 63 แตะ 1 ล้านลบ. โต 4%

HoonSmart.com>> “บล.เอเซีย พลัส” หั่นเป้ากำไรบริษัทจดทะเบียนปี 62 เหลือ 9.63 แสนล้านบาท จากเดิมคาดไว้ 9.99 แสนล้านบาท กำไรต่อหุ้นลด 8.5% หลัง 9 เดือนผลงานต่ำกว่าคาด ฉุดเป้า SET Index พร้อมมองปี 63 กำไรเหลือ 1 ล้านล้านบาท กำไรต่อหุ้นโต 4%

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส ออกบทวิเคราะห์ภาพรวมบริษัทจดทะเบียน (บจ.) หลังประกาศงบของบริษัทจดทะเบียน พบว่า 9 เดือน ปี 2562 บริษัททำกำไรสุทธิรวม 6.95 แสนล้านบาท คิดเป็น 69.52% ของประมาณการทั้งปี ถือเป็นผลประกอบการที่ต่ำกว่าที่คาดและในงวดไตรมาส 4/2562 ไม่น่าจะเห็นกำไรวิ่งไปถึงที่ประเมินไว้ จึงต้องปรับประมาณการกำไรฯ ปี 2562-2563 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยสุทธิแล้ว พบว่าประมาณการกำไรฯ ปี 2562 ลดลงราว 3.69 หมื่นล้านบาท หรือลดลง 3.69% มาอยู่ที่ 9.63 แสนล้านบาท จากเดิมฝ่ายวิจัยคาดการณ์กำไรสุทธิบริษัทจดทะเบียนปี 2562 ไว้ที่ 9.99 แสนล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น (EPS) 100.64 บาท

นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงเพิ่มจำนวนหุ้น (share) ของตลาดฯ ให้สอดคล้องกับภาวะปัจจุบัน เนื่องจากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีหุ้น IPO เข้าตลาดมาแล้ว 55 บริษัท โดยเฉพาะช่วงหลังๆ หุ้นที่ IPO เข้ามามีขนาดใหญ่ และมีค่า P/E อยู่ในระดับสูง

โดยเฉพาะในปี 2562 นี้ มีหุ้น IPO เข้าในดัชนี SET กว่า 14 บริษัท คือ AWC, ACE, SEG, DOHOME, SHR, RBF, ILM, SUPEREIF, SPRIME, ZEN, TTT , AIMCG, VRANDA และ CPW มี P/E ทั้งกลุ่มสูงถึง 84.79 เท่า (ไม่รวมกองทุนอสังหาฯ และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน) เช่นหุ้นขนาดใหญ่อย่าง AWC มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap) 1.89 แสนล้านบาท และมี P/E ย้อนหลัง 4 ไตรมาส 223 เท่า, และ ACE มี Market Cap 4.66 ล้านบาท มี P/E ย้อนหลัง 4 ไตรมาส 68 เท่า เป็นต้น ถือเป็นส่วนหนึ่งที่กดดัน EPS ของตลาดฯ ลดลง เนื่องจากสัดส่วนของ Market Cap ที่ขยายขึ้นมากกว่าส่วนของกำไร

ทั้ง 2 ประเด็นส่งผลให้ฝ่ายวิจัยฯ ปรับลดกำไรต่อหุ้น (EPS) ของตลาดฯ ลงจากระดับ 100.64 บาท/หุ้น เหลือ 92.11 บาท/หุ้น หรือลดลง 8.5% ส่งผลให้เป้าหมาย SET Index มีการปรับเปลี่ยนไป ขึ้นอยู่กับแรงหนุนของ Fund Flow ส่งผลให้กรอบการซื้อขายในต่ละช่วง P/E เปลี่ยนแปลงไป

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการปี 2563 เบื้องต้นประเมินไว้ที่ 1.0 ล้านล้านบาท และคิดเป็นกำไรต่อหุ้น (EPS) 95.71 บาท เติบโตราว 4% จากปีก่อน ส่วนกลยุทธ์การลงทุนเน้นเลือกหุ้นแนวโน้มเติบโตมากกว่าตลาด