HoonSmart.com>>แรงขายกระหน่ำหุ้น GULF แค่ 2 วัน ราคาตก 14.50 บาท หรือ 8.45 % ฉุดหุ้นไฟฟ้าตัวอื่น ร่วงตาม บริษัทเปิดข่าวดีสู้ GPSC เตรียมส่งแผนผลิตไฟฟ้าป้อนเมืองใหม่ย่างกุ้ง พร้อมหาโอกาสลงทุนเวียดนาม-ไต้หวัน ส่วน EA จับมือ จุฬา-พันธมิตร ขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยอัจฉริยะ นำร่องซื้อขายไฟแบบ Peer to Peer ด้าน PSTC เตรียมย้ายเข้ากระดานใหญ่ SET กลางปี 63
ราคาหุ้นบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) มีแรงขายต่อเนื่องออกมาอีกวัน แม้ว่าแรงซื้อที่มีเข้ามาบ้าง แต่แรงขายที่มีมากกว่า ฉุดราคาลงมาปิด 157 บาท ลดลง 4.50 บาท หรือ 2.79 % ซึ่งก่อนหน้า 16 ธ.ค. ราคาที่ตกหนัก ส่งผลให้ 2 วันทำการดังกล่าว (16-17 ธ.ค.) ราคาลงมา 14.50 บาท หรือ 8.45 %
แรงขายหุ้น GULF ที่ออกมาต่อเนื่อง ส่งผลให้หุ้นไฟฟ้าตัวอื่น ๆ เช่น GPSC ร่วงตาม โดยเป็นหุ้นที่ราคาขึ้นตามกันมา และตกหนักตาม เพียง 2 วันราคาลง 6.50 บาท หรือ 7.47 % จากราคา 87 บาท มาปิดล่าสุด 80.50 บาท
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) กล่าวว่า บริษัทมองหาโอกาสการลงทุนใหม่ ๆ เพิ่มเติม แม้ว่าปีนี้จะซื้อหุ้น โกลว์ พลังงาน (GLOW) มูลค่ากว่า 1.3 แสนล้านบาท ล่าสุดการลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าป้อนเมืองใหม่ย่างกุ้ง หลังได้รับคัดเลือกจาก New Yangon Development Company (NYDC) คาดส่งแผนงานให้ทางการเมียน พิจารณาภายในครึ่งแรกปี 63
ส่วนโครงการลงทุนโรงไฟฟ้า Gas to Power กำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ (MW) ในเมียนมา หลังจากส่งแผนไปทางการเมียนมา นานพอสมควรแล้ว ขณะนี้ยังไม่มีผลสรุปออกมา รวมทั้งมองโอกาสลงทุนในเวียดนามและไต้หวันด้วย
สำหรับการดำเนินงานปี 63 คาดว่า ทั้งรายได้และกำไร จะเพิ่มขึ้นจากปีนี้ ทั้งการเข้าซื้อกิจการ GLOW และการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ของโรงไฟฟ้าใหม่ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำลิก 1 ในลาว, โครงการศูนย์ผลิตสาธารณูปการ จังหวัดระยองแห่งที่ 4 (CUP-4) และโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ขณะที่ปีหน้าจะเริ่ม COD โครงการผลิตไฟฟ้านวนครส่วนขยาย
ความคืบหน้าการสร้างพลังร่วม หรือ Synergy กับ GLOW มีความคืบหน้า รวมถึงจะมีการลงทุนโครงข่ายไฟฟ้าและไอน้ำ ให้เกิดการเชื่อมโยงกัน ช่วยเพิ่มกำไรก่อน EBITDA อีก 1,600 ล้านบาท/ปี ขณะที่ GLOW ยังเดินหน้า ทำโครงการโรงไฟฟ้าระบบโคเจนเนอเรชั่นทดแทนโรงเดิมที่หมดอายุ (SPP Replacement) รวม 584 เมกะวัตต์
ด้านการก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ต้นแบบ (Pilot Plant) ขนาด 10 เมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) ในสหรัฐนั้น รอผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ต้นปี 63 เปิดเผยรายละเอียดได้
ปัจจุบัน GPSC มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 5,026 เมกะวัตต์ โดยเป็นโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องผลิตแล้ว 4,748 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลือจะทยอยเข้าระบบภายในปี 66
ขณะที่ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ลงนาม บันทึกความเข้าใจ โครงการพื้นที่ทดสอบมหาวิทยาลัยอัจฉริยะด้านพลังงาน ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย : ระบบซื้อขายไฟฟ้าแบบ Peer-to-Peer และอาคารอัจฉริยะ ระหว่างการไฟฟ้านครหลวง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)” เพื่อขับเคลื่อนวิถีชีวิตเมืองมหานครอัจฉริยะ เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานหมุนเวียน ระบบกักเก็บพลังงาน และรถยนต์ไฟฟ้า ครั้งแรกในประเทศไทย
นายกีรพัฒน์ เจียมเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (MEA) กล่าวว่า ทั้ง 3 ฝ่ายจะร่วมกันศึกษาและพัฒนาระบบซื้อขายไฟฟ้าแบบ Peer-to-Peer และอาคารอัจฉริยะ ในพื้นที่การศึกษาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ติดตั้ง ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ประมาณ 20 เมกะวัตต์ โดย MEA ออกแบบติดตั้ง โซลาร์ ลูฟ บันทึกความเข้าใจฉบับนี้มีระยะเวลา 3 ปี
นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA กล่าวว่า บริษัท พร้อมนำ Trading Platform ที่บริษัทได้พัฒนาขึ้น มาทดสอบซื้อขายพลังงานไฟฟ้าผ่านระบบออนไลน์ ณ สถานที่จริงเป็นครั้งแรก พื้นที่ที่ทดสอบในโครงการนี้ ระบบการซื้อขายพลังงานไฟฟ้านี้ ใช้ชื่อว่า Gideon (กิเดียน) เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายพลังงาน ที่ลูกค้าสามารถซื้อพลังงานจากผู้ผลิตได้โดยตรง มี AI ช่วยทำนายและเทรดได้แบบอัตโนมัติ มีความปลอดภัยสูง
บริษัท ฯ มีแผน Solar Rooftop ระบบกักเก็บพลังงาน สถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และ มิเตอร์ไฟฟ้า เพื่อสร้างระบบนิเวศน์ให้เป็นต้นแบบของมหาวิทยาลัยอัจฉริยะด้านพลังงาน ตามเจตนารมณ์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผลสำเร็จจากโครงการนี้ จะนำไปสู่การมีระบบการผลิต จำหน่าย และใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
อ่านประกอบ