HoonSmart.com>>ในปี 2562 “คลื่นดิจิทัลดิสรัปชั่น” โหมโจมตีธุรกิจหลายแห่งล้มครืนลง ส่วนหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมการจับจ่ายใช้จ่ายของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ตามยุค 4.0 แต่กลับสร้างโอกาสมหาศาลให้กับ “CPALL”
บริษัท ซีพีออลล์ ร้านสะดวกซื้อ ภายใต้เครื่องหมายการค้า เซเว่น อีเลฟเว่น (7-Eleven) และลงทุนในบริษัท สยามแม็คโคร ศูนย์จำหน่ายสินค้าแบบชำระเงินสดและบริการตนเอง” แม็คโคร” เซเว่นฯเนื้อหอม เห็นได้จากปรากฎการณ์ เลือกจับคู่เป็นมหามิตรในธุรกิจหลากหลาย ซึ่งไม่จำกัดวงเฉพาะธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ในการรับฝาก-ถอนเงินตลอด 24 ชั่วโมงเท่านั้น ร้านสะดวกชื้อ สมชื่อ มีบริการมากมาย ผ่านทั้งสาขามากกว่า 11,600 แห่งทั่วประเทศและเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ “เวนดิ้ง แมชีน” ต่อยอดฐานธุรกิจให้แข็งแกร่งและเติบโตมั่นคงในระยะยาว
ขณะเดียวกัน CPALL เอง ก็มีการเติบโตตามกลยุทธ์เปิดสาขาทุกปี อย่างน้อย 700 สาขา เพื่อให้บรรลุเป้าหมายระยะยาว 13,000 สาขา ในปี 2564 ส่วนสาขาที่มีอยู่เดิมก็มีการเติบโตขึ้นทุกปี ทั้งรายได้ และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ด้วยประสิทธิภาพการบริหารจัดการที่ทรงพลัง เทน้ำหนักในการขายสินค้าอาหารและเครื่องดื่มถึง 70% เพราะมีอัตรากำไรขั้นต้นและสุทธิสูงกว่าสินค้าอุปโภคทั่วไป
“ซีพีออลล์ “เตรียมความพร้อมมานานในการบุกครั้งใหญ่ ซุ่มลงทุนระบบเทคโนโลยีทันสมัย สามารถต่อปลั๊ก เชื่อมระบบกับทุกธุรกิจได้ทันที ธุรกิจไหนบริษัททำไม่ได้ ก็มีการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ เพื่อรองรับกับประเภทธุรกิจที่จะดําเนินการเพิ่มเติมในอนาคต มีการเพิ่มวัตถุประสงค์จากเดิมที่มีอยู่ 76 ข้อ แก้เป็น 93 ข้อ และปรับปรุงด้วย เช่น ข้อ 23 ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้างต่างๆ มีการเพิ่มระบบสาธารณูปโภค สิ่งอํานวยความสะดวก และการก่อสร้างอย่างอื่นทุกชนิดทุกประเภทเข้าไป
“โลจิสติกส์” เป็นหัวใจในการทำธุรกิจ ซีพีออลล์ก็มองเห็นโอกาส ได้จัดตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ เพื่อดําเนินธุรกิจบริการจัดส่งพัสดุและสินค้าด่วนภายในประเทศชื่อ “บริษัท ออลล์ นาว โลจิสติกส์ จํากัด” และการเปลี่ยนชื่อบริษัท ไดนามิค แมนเนจเมนท์ ซึ่งทำธุรกิจบริหารจัดการคลังสินค้า เป็น “บริษัท ออลล์ นาว แมนเนจ เมนท์ จํากัด” เพื่อให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจร
ที่สำคัญ CPALL ไม่ขอ”ใหญ่” เฉพาะในประเทศไทยอีกต่อไปแล้ว มองการเติบโตออกไปสู่ภูมิภาค มีการทำสัญญาแฟรนไชส์หลักในการลงทุนจัดตั้งและดําเนินการใน 7-Eleven ในประเทศกัมพูชาและลาวเรียบร้อยแล้ว
การขยับองค์กรและขยายธุรกิจที่รวดเร็วของ CPALL สามารถมองเห็นการเติบโตอย่างมากในอนาคต ทำให้หุ้นยังคงอยู่ในดวงใจของนักลงทุน และนักวิเคราะห์ทั้ง 16 คนมีมติเป็นเอกฉันท์ แนะนำ”ซื้อ” ให้ราคากลางและราคาเฉลี่ยบริเวณ 96 บาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 75 บาท มี 4 รายที่ให้เป้าหมายถึง 100 บาท บล.เอเซียพลัส บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย) ให้ 101 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนประมาณ 33% ในปัจจุบัน ในภาวะดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน มั่นใจได้ว่ากำไรไตรมาส 4 โตได้ดีตามเทศกาลปีใหม่ วันหยุดยาว นอกจากจะได้กำไรจากส่วนต่างราคาแล้ว ยังได้เงินปันผลติดไม้ติดมือมาด้วย น่าสนใจมั๊ย!