STARK ยึดทฤษฏี “ยิ่งใหญ่ ยิ่งได้เปรียบ”

HoonSmart.com>>“ ชนินทร์ เย็นสุดใจ” บิ๊ก STARK ยึดทฤษฏี ก็อตซิลล่า “ยิ่งใหญ่ ยิ่งได้เปรียบ” คุมต้นทุนดีขึ้น  ปี 2563 เบอร์ 1 ยอดขายใหญ่สุดในอาเซียน + เกือบ 3 หมื่นล.  ลุยซื้อกิจการลงทุนต่อเนื่อง  ผลตอบแทนลงทุนไม่น้อยกว่า 15 %  สถานะการเงินพร้อมอยู่ในเงื่อนไขปันผลได้  หลังซื้อโรงงานสายไฟในเวียดนาม พร้อมอัพเกรดสายไฟไฮโวลท์ เพิ่มกำลังผลิตเท่าตัว 

นายชนิทร์ เย็นสุดใจ ประธานกรรมการ บริษัท  สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) เปิดเผย www.HoonSmart.com ว่า บริษัท ฯ เป็นโฮลดิ้ง มีอาชีพลงทุน ทำมาหากิน  ส่งเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น จึงได้เดินหน้าซื้อกิจการเพื่อลงทุน เบื้องต้นปี 2563 มองกิจการที่อยู่ในไลน์เดียวกับธุรกิจของกลุ่ม STARK ซึ่งช่องทางการลงทุน ยังเป็นการบริหารความเสี่ยง และยุทธศาสตร์ของบริษัท

ล่าสุด การซื้อโรงงานสายไฟฟ้าที่ประเทศเวียดนาม มูลค่ากว่า 7.3 พันล้านบาท ส่งผลให้ผลประกอบการของ STARK เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ยอดขายปกติของ STARK ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ยอดขายโรงงานสายไฟฟ้าเวียดนาม ประมาณ 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท รวม 2 บริษัท ยอดขาย 2.5 – 3 หมื่นล้านบาท ใหญ่ที่สุดในอาเซียน + (รวมออสเตรเลียและนิวซีแลนด์)

ขณะเดียวกันต้นทุนการผลิต ปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน เช่น การซื้อทองแดงซึ่งเป็นวัตถุดิบการผลิตที่ถูกลง  อำนาจการต่อรองที่ดีขึ้น การขนส่งที่ต่ำลง และการตลาดขยายตัวมากขึ้น จากสินค้าครบไลน์ ส่งออกไม่ซ้ำกัน  ซึ่งโรงงานสายไฟฟ้าเวียดนาม ผลิตสายไฟคุณภาพตลาดระดับกลาง  ส่งขายออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย , พม่า ลาว กัมพูชาขณะที่เฟ้ลปส์ ดอด์จ  เป็นผู้ผลิตสายไฟฟ้าแรงดันสูง หรือเกรด 1 ของไทย  สำหรับโครงการขนาดใหญ่ ส่งขายแอฟริกา , ยุโรป ฯ

จุดได้เปรียบอีกประการของโรงงานสายไฟฟ้าเวียดนาม คือ ค่าแรงงานที่ต่ำกว่าไทยประมาณ 50 % , ค่าไฟฟ้าที่ถูกกว่า และเครื่องจักรเยอรมัน ปัจจุบันโรงงานเวียดนาม ผลิตสายไฟเกรดเอ กำลังผลิต 50 % อยู่ระหว่างเตรียมการขยายกำลังผลิตเป็น 100 % และพร้อมแล้วที่จะอัพเกรด เป็นโรงงานผลิตสายไฟฟ้าแรงดันสูง (ไฮโวลท์)

นอกจากนี้เศรษฐกิจเวียดนาม เติบโตปีละ 7-8 % มีเม็ดเงินลงทุนต่อเนื่องยุโรปและจีน

” การซื้อโรงงานสายไฟฟ้าเวียดนาม ทำให้โปรดักส์ของเฟ้ลปส์ ดอด์จ ครบไลน์ บนราคาและคุณภาพเดียวกัน จากความได้เปรียบที่แตกต่างของต้นทุนแรงงาน ค่าไฟฟ้า ของเวียดนาม ซึ่งจะทำให้ปีนี้เฟ้ลปส์ ดอด์จ มีมาร์จิ้นและยอดขาย ดีขึ้นมหาศาล”

นายชนินทร์ กล่าวอีกว่า ความสำเร็จ การซื้อโรงงานผลิตสายไฟฟ้าใหญ่สุดในเวียดนาม  เพราะเป็นคู่ค้ากัน และเจ้าของมีธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ต้องการไปลุยทำอสังหา ฯ จึงขายกิจการโรงงานสายไฟฟ้า

สำหรับการเพิ่มสภาพคล่องหุ้นเป็๋น 10-15 % ของทุนจดทะเบียน 2.4 หมื่นล้านบาท  ตลาดหลักทรัพย์กำหนดภายใน มิ.ย.63 ปัจจุบัน STARK ไม่มีขาดทุนสะสม ดังนั้นสถานะพร้อมอยู่ในเงื่อนไขปันผลได้

ด้านราคาหุ้น STARK ปิดวันที่ 30 ธ.ค.2562 ที่ 2.12 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท