ก.พลังงานมั่นใจบริหารจัดการสำรองน้ำมันได้-ประชุมกบน.รับมือ 10 ม.ค.นี้

HoonSmart.com>> กระทรวงพลังงาน เปิดวอร์รูมติดตามสถานการณ์ตึงเครียดสหรัฐฯ-อิหร่านใกล้ชิด มั่นใจบริหารจัดการได้ทั้งด้านปริมาณสำรองน้ำมัน ดูแลราคาไม่กระทบประชาชน เตรียมประชุมร่วม “กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง” 10 ม.ค.63 รับมือราคาน้ำมันแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แถลงว่า กระทรวงพลังงานได้ติดตามสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างประเทศสหรัฐฯและอิหร่านอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินและเตรียมการหากเกิดสถานการณ์ที่วิกฤตเพิ่มขึ้น

ในวันนี้ได้มีการประชุมหารือและได้เตรียมการที่สำคัญ ด้านปริมาณสำรอง ปัจจุบัน ณ วันที่ 5 มกราคม 2563 ไทยมีปริมาณสำรองน้ำมันดิบประมาณ 2,988 ล้านลิตร ปริมาณสำรองน้ำมันดิบที่อยู่ระหว่างขนส่งอีก 1,144 ล้านลิตร น้ำมันสำเร็จรูป 1,468 ล้านลิตร รวมจำนวนวันที่สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้ทั้งหมด 50 วัน ส่วนปริมาณสำรองก๊าซ LPG ทั้งหมดประมาณ 101 ล้านกิโลกรัม สำรองได้ 17 วันสำหรับใช้ในภาคครัวเรือน

ทั้งนี้ ได้มีการบริหารจัดการเพื่อกระจายความเสี่ยงระยะยาว โดยกลุ่ม ปตท. ได้ปรับลดสัดส่วนการนำเข้าน้ำมันจากตะวันออกกลางที่เคยสูงถึงกว่า 74% และล่าสุดปรับลดเหลือประมาณ 50%

ด้านการผลิตปิโตรเลียมในประเทศ ปัจจุบันผลิตน้ำมันดิบได้ประมาณ 1.3 แสนบาร์เรล/วัน โดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะขอความร่วมมือในการงดส่งออกน้ำมันดิบซึ่งจะได้ปริมาณน้ำมันดิบเพิ่มมากขึ้นประมาณ 25,000 บาร์เรล/วัน และหากมีเหตุฉุกเฉิน สามารถเพิ่มการผลิตภายในประเทศให้มากขึ้นอีก 36,000 บาร์เรล/วัน โดยจะขอความร่วมมือกับโรงกลั่นน้ำมันให้หาทางออกด้านเทคนิคเพื่อใช้น้ำมันดิบในประเทศทั้งหมด

ในด้านบริหารราคาน้ำมันเชื้อเพลิง กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีเกณฑ์สำหรับการบริหารจัดการราคาน้ำมันในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งได้มีการจัดทำเป็น Scenario ในช่วงระดับราคาต่างๆ ในการบริหารจัดการราคาน้ำมันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งจะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในเรื่องดังกล่าว ขณะนี้สถานะกองทุนน้ำมันฯ อยู่ที่ประมาณ 37,000 ล้านบาท

“ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจว่า กระทรวงพลังงานจะสามารถบริหารจัดการสถานการณ์ด้านความมั่นคงของการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงให้มีใช้อย่างต่อเนื่อง และด้านราคาไม่ให้เกิดความผันผวนจนส่งผลกระทบต่อประชาชน” รมว.พลังงาน กล่าว

อย่างไรก็ตามหลังจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้มีมติเห็นชอบปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมัน ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันทุกชนิดลดลง 1 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 62 -10 ม.ค. 63 หากไม่มีมาตรการนี้ออกมาในก่อนหน้านี้ จะส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นจากเดิม ซึ่งทางกระทรวงพลังงานจะมีการเข้าร่วมประชุมกับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ในวันที่ 10 ม.ค.63 เพื่อหาทางรับมือราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้น เพื่อประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าและเตรียมรับมือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงเตรียมความพร้อมล่วงหน้า จากปัจจุบันราคาน้ำมันดิบ อยู่ที่ 69 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นมาจากเดิมเกือบ 4%

อ่านข่าว

ไทยออยล์ คาดน้ำมันดิบ WTI สัปดาห์นี้ กรอบ 60 – 65 เหรียญฯ