2563 ปีทอง “สตาร์เฟล็กซ์” ลงทุนไว้ไม่ผิดหวัง

HoonSmart.com>>ปีทองสตาร์เฟล็กซ์ 2563  โรงงานใหม่เสร็จ กำลังผลิตเพิ่มอีก 30 % ของการผลิต ลุยแตกไลน์เจาะตลาดบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กมีฝาปิด ถุงข้าว และซองอาหาร ดันรายได้เติบโตจากฐานลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ 

ปริญทร์ธรณ์ อภิธนาศรีวงศ์

บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) หุ้นน้ำดีอีกตัว ที่ราคาสวิง ยืนเหนือจอง 3.88 บาท ไม่ได้  ตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์ 19 ธ.ค. 2562 ตัวสุดท้ายของ บล.ฟินันเซียไซรัส  แม้ว่าระหว่างทางราคาผ่านจองไปบ้าง โดนแรงขายที่ออกมาเป็นระยะ ๆ   กดราคาย่ำต่ำจอง แต่ไม่มากนัก นั่นแสดงว่า มีนักลงทุนที่มั่นใจ เข้ามาเก็บหุ้น

หากดูปัจจัยพื้นฐานหุ้นตัวนี้ ธุรกิจผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) สำหรับสินค้าอุปโภคและบริโภค ตามคำสั่งลูกค้า (Made to Order) กว่า 30 ราย ในจำนวนนี้ มีลูกค้ารายใหญ่ 4 ราย คิดเป็นสัดส่วนของรายได้ 80-85 % ของรายได้ อาทิ ลีเวอร์บราเธอร์, นีโอ แฟคทอรี่, สหพัฒน์ฯ เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ฯ

หากนึกภาพไม่ออก ลองนึกถึงถุงเติมน้ำยาซักผ้า  น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยารีดผ้า น้ำยาล้างจาน  ของใช้ในชีวิตประจำวัน และของกินที่บรรจุในขนมซอง ถึงบางอ้อทันที

SFLEX เป็นผู้ผลิตคนไทย ที่แข่งกับต่างชาติ ที่เข้ามาตั้งโรงงานในประเทศไทย โดยเบอร์ 1-3 เป็นสัญชาติออสเตรเลีย , ฟินแลนด์ และญี่ปุ่น SFLEX เป็นรายที่ 4 มาร์เก็ตแชร์เพียง 4 % ของมูลค่าตลาดกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท

การเข้าตลาดหุ้นของ SFLEX มีนัยสำคัญอย่างมาก ที่จะใช้ขยายกำลังผลิตสำหรับปีต่อ ๆ ไป ซึ่งปีที่ผ่านมา 2562 บริษัทลงทุน สร้างโรงงานใหม่ ลงเครื่องจักร พร้อมนวัตกรรมการผลิตล้ำสมัย เงินที่ถมลงไป ไม่มีการผลิต ปีที่ผ่านมากำไรจึงลดลง

เมื่อการลงทุนใหม่เสร็จสิ้น ปี 2563 จึงถือเป็นปีทอง ของการเก็บเกี่ยวผลจากที่ลงทุนไป กำลังผลิตที่เต็มรองรับลูกค้าไม่ได้ในปีก่อน ปีนี้สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ถึง 30 % ไปถึงกลางปี 2564  และหลังเข้าตลาดหุ้น ลงทุนเพิ่มกำลังผลิตในปีถัดไปอีก 20 % ของการผลิต  รองรับความต้องการลูกค้า

“ปริญทร์ธรณ์ อภิธนาศรีวงศ์” ประธานกรรมการบริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่ SFLEX อดีตประธานกลุ่ม YPO (Young Presidents Organization)  คอนเน็กซ์ชั่นสายผู้นำธุรกิจชั้นนำของประเทศไทย  เล่าว่า บริษัทดำเนินการมา 16 ปี ลูกค้าส่วนใหญ่อยู่กันมานาน ผลิตบรรจุภัณฑ์สินค้าแบรนด์ไฮเอ็น ให้กับลูกค้าอุปโภค-บริโภค ชั้นนำของประเทศ ที่ผ่านมากำลังผลิตเต็ม ไม่สามารถรองรับลูกค้าได้ ปีนี้หลังจากโรงงานใหม่เสร็จแล้ว กำลังผลิตจะเพิ่มขึ้นอีก 30 %  จากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่  ปี 2563 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 15-20 % จากปีก่อน

” ไตรมาส 4 /2562 เทียบช่วงเดียวกันปี 2561 จะเห็นการเติบโต 25 % เพราะโรงงานแห่งใหม่เสร็จ เริ่มมีการผลิต และปี 2563 นี้  การเพิ่มกำลังผลิตทำได้เต็มที่  แตกไลน์ผลิตฟิลม์บรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กมีฝาปิด (ซาเซ่)  ผลิตบรรจุภัณฑ์ถุงข้าวและบรรจุภัณฑ์อาหาร เช่น ซองขนมขบเคี้ยว ”

เมื่อศักยภาพและโอกาสการเติบโตของ สตาร์เฟล็กซ์ ที่มีอย่างต่อเนื่อง จากฐานลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ จึงมีนักลงทุนแมวมองตาถึง ประเภทกองทุนส่วนบุคคลของไทย เข้ามากวาดเก็บหุ้นในกระดานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเข้ามาขอข้อมูลของสถาบันไทย-เทศ และการออกไปโรดโชว์ตลอดเดือนม.ค.-ก.พ.นี้

“สตาร์เฟล็กซ์ มีแผนโรดโชว์ให้ข้อมูลช่วงม.ค.ถึงก.พ.นี้  มีกองทุนที่สนใจขอข้อมูล 7-8 กองทุน เป็นกองทุนขนาดเล็ก มีแผนให้กองทุนถือหุ้น 10 % ของทุนจดทะเบียน จากที่ไม่มีเลยในปัจจุบัน” ประธานกรรมการบริหาร กล่าว