บล.กสิกรฯ ให้แนวรับ 1,565 แนวต้าน 1,595 หลายปัจจัยชี้นำหุ้นสัปดาห์หน้า

HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทยคาดตลาดหุ้นยังมีความไม่แน่นอน ลุ้นกำไรบจ.ไตรมาส 4/62 สถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐ-จีนหลังลงนามในข้อตกลงเฟสแรก ความขัดแย้งตะวันออกกลาง ส่วนค่าเงินบาท ธนาคารกสิกรไทยตีกรอบ 30.00-30.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยคาดตลาดหุ้นสัปดาห์ถัดไป (13-17 ม.ค.) ดัชนีมีแนวรับที่ 1,565 และ 1,550 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,595 และ 1,600 จุด ตามลำดับ

ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลประกอบการไตรมาส 4/62 ของบริษัทจดทะเบียน สถานการณ์หลังการลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐฯ-จีน สถานการณ์ในตะวันออกกลาง รวมถึงประเด็น BREXIT ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตและดัชนีราคาผู้บริโภค ยอดค้าปลีก ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนธ.ค. ของญี่ปุ่น ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนธ.ค. ของยูโรโซน รวมถึงตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/62 และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนธ.ค.ของจีน

สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีหุ้นผันผวน ปิดที่ระดับ 1,580.63 จุด ลดลง 0.90% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 63,374.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.82% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ลดลง 2.51% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 303.75 จุด

ตลาดหุ้นไทยผันผวนในกรอบขาลงท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน โดยอิหร่านตอบโต้สหรัฐฯ ที่สังหารนายพลระดับสูงด้วยการโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในอิรัก อย่างไรก็ดี ดัชนีฯ ฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์ หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แถลงว่า สหรัฐฯ จะใช้วิธีการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับอิหร่าน โดยไม่ได้ระบุถึงมาตรการตอบโต้ทางการทหาร ซึ่งสัญญาณดังกล่าวช่วยคลายความกังวลบางส่วนต่อสถานการณ์ในตะวันออกกลาง

ทางด้านค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (13-17 ม.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหว 30.00-30.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ

ปัจจัยสำคัญที่ตลาดรอติดตาม ได้แก่ สัญญาณการเดินหน้าเจรจาการค้าของสหรัฐฯ-จีนในเฟสต่อๆ ไป ประเด็น BREXIT และสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน การอนุญาตก่อสร้าง ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. 2562 ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดนิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มภาคธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนม.ค. 2563 นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามข้อมูลจีดีพีไตรมาส 4/62 และตัวเลขเศรษฐกิจเดือนธ.ค. 62 ของจีนด้วยเช่นกัน

เงินบาทกลับมาแข็งค่าปลายสัปดาห์  จากทรงตัวในกรอบแคบๆ ก่อนจะอ่อนค่าลงแตะระดับ 30.37 บาทต่อดอลลาร์ฯ ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนค่าสุดในรอบกว่า 1 เดือน สอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์ที่ตึงเครียดมากขึ้นในตะวันออกกลาง หลังมีรายงานข่าวระบุว่า อิหร่านโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในอิรัก เพื่อเป็นการตอบโต้ปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ในช่วงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงติดลบกลับมาบางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์ หลังตลาดคลายความกังวลต่อสถานการณ์ในตะวันออกกลางลง และเปลี่ยนจุดสนใจกลับไปที่การเตรียมลงนามดีลการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนในช่วงกลางเดือนม.ค.

ในวันศุกร์ (10 ม.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 30.23 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 30.15 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (3 ม.ค.)