3 บล.ชวนซื้อหุ้น PTTEP-ESSO-SPRC-PTT-PTTGC อิหร่านยังไม่สงบ

HoonSmart.com>>”บล.ทรีนีตี้-ไทยพาณิชย์-หยวนต้า” เตือนความขัดแย้งตะวันออกกลางยังอาจจะรุนแรงเพิ่มขึ้น แต่ไม่ถึงขั้นการใช้กำลังทางการทหาร ดันราคาน้ำมันสูงขึ้น แต่ไม่ถึง 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หนุนหุ้น PTTEP-ESSO-SPRC-PTT-PTTGC   แนะกระจายลงทุนไปตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว และทองคำเด้งขึ้นช่วงสั้น

สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัด Hot Issue “วิเคราะห์ผลกระทบจากสหรัฐอเมริกาปะทะอิหร่าน” โดยดร.บุญธรรม รจิตภิญโญเลิศ นักเศรษฐศาสตร์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ กล่าวว่า ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับอิหร่าน เกิดจากสหรัฐอเมริกาจะจัดให้มีการเลือกตั้งประธนาธาธิบดี  และสหรัฐฯใช้การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจตอบโต้ ทำให้ซาอุดิอาระเบีย ,อิสราเอล และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้รับผลกระทบด้วย คาดราคาน้ำมันดิบที่ 67 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จากความกังวลปิดช่องแคบฮอร์มุซ มองว่ามีโอกาสเกิดขึ้น 20% ทำให้ปริมาณน้ำมันดิบที่ต้องขนส่งผ่านช่องแคบลดลง 4.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ขณะที่สหรัฐฯ จะนำเชลล์ออยล์เข้าสู่ตลาดโลก แต่ยังติดที่ยังไม่สามารถขนส่งไปได้ไกล คาดว่าราคาน้ำมันจะไม่ขึ้นไปที่ 80 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ตราบใดที่สหรัฐฯ ยังไม่โจมตีอิหร่าน

ส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น แนะนำหุ้น PTTEP ราคาเป้าหมายที่ 153 บาท โดยกลยุทธ์การลงทุนเน้นการกระจายความเสี่ยงไปยังหุ้นประเทศพัฒนาแล้ว เช่นสหรัฐฯ ญี่ปุ่น เป็นต้น ส่วนอินโดนีเซียก็น่าสนใจ เสถียรภาพการเมืองดี และบริษัทจดทะเบียนมีความสามารถในการแข่งขันที่ดี

นายเอกภาวิน สุนทราภิชาติ นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ (SCBS) กล่าวว่า ความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศ จะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น แต่ไม่ถึงขั้นการก่อสงคราม ส่วนข่าวจะปิดช่องแคบฮอร์มุซเป็นเรื่องที่น่าเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากจีนเป็นพันธมิตรกับอิหร่าน และจีนมีการบริโภคน้ำมันจำนวนมาก ส่วนราคาน้ำมันมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ตามข้อตกลงลดกำลังผลิตของกลุ่มโอเปค คาดว่าราคาน้ำมันดิบจะขึ้นได้ถึง 70-75 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล แต่คงไม่ถึง 80 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพราะจะกระทบต่อเศรษฐกิจด้านต้นทุน และดอกเบี้ย อาจจะการขึ้นดอกเบี้ย

หุ้นที่ได้ประโยชน์ในช่วงระยะสั้นคือหุ้นกลุ่มโรงกลั่น ราคาน้ำมันดิบขึ้น 1 เหรียญต่อบาร์เรล จะทำให้ราคาหุ้น ESSO เพิ่มขึ้น 3.5% และ SPRC ราคาปรับตัวขึ้น 2.7% แต่ในระยะยาวต้นทุนก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ในส่วนระยะกลาง PTTEP จะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมัน และปริมาณการขายที่สูงขึ้นจากซื้อแหล่งการใหม่เข้ามา ในปี 2563

นายปิยะภัทร์ ภัทรภูวดล นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า กล่าวว่า ความขัดแย้งของทั้ง 2 ประเทศ มองการลงทุนไปยังทองคำน่าสนใจ จากความรุนแรงครั้งล่าสุด ทำให้ราคาทองคำทะลุ 1,600 เหรียญสหรัฐฯต่อออนซ์ และราคายังมีโอกาสปรับเพิ่ม 1-2% แต่ในภาวะความขัดแย้งยังไม่ถึงขั้นสงคราม ราคาทองคำจะขึ้นได้ชั่วคราว ไม่เกิน 1 เดือน และควรกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ปลอดภัยอื่นๆ เพื่อป้องกันความผันผวนและอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้หุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น คือ PTT , PTTEP และPTTGC และจากสถิติ 2 เดือนแรกของปี ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัว โดยตั้งเป้าดัชนีหุ้น ที่ 1678 จุด ของ P/E 16.7 เท่า