บลจ.กสิกรไทย เปิดขาย K-PROP ลุยเพิ่มขนาดกองแตะ 5 พันลบ.

HoonSmart.com>> บลจ.กสิกรไทย เปิดขายกองทุน K-PROP หลังเพิ่มขนาดกองทุนแตะ 5,000 ล้านบาท ซื้อง่ายทุกช่องทาง 14 ม.ค.นี้ เหมาะลงทุนระยะยาว ชี้ที่ผ่านมาราคาหน่วยลงทุนขึ้นมาก แนะจะเข้าลงทุนต้องระมัดระวัง หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ฉุดราคาผันผวนเผชิญแรงขายทำกำไร

น.ส.ธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้เพิ่มเงินทุนจดทะเบียนโครงการของ กองทุนเปิดเค พร็อพเพอร์ตี้ เซคเตอร์ (K-PROP) เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 5,000 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทมีกำหนดเปิดขายกองทุน K-PROP อีกครั้งในทุกช่องทาง ตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค.2563 เป็นต้นไป

น.ส.ธิดาศิริกล่าว ต่อไปว่า กองทุน K-PROP ได้รับการจัดอันดับ Overall Morningstar Rating 5 ดาว ในกลุ่ม Property – Indirect Global ต่อเนื่องยาวนานถึง 7 เดือน (ข้อมูลจาก Morningstar ณ วันที่ 31 ธ.ค. 62) ทั้งนี้ นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน K-PROP เมื่อปี 2559 กองทุนได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนได้จากจำนวนเงินทุนโครงการที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 30,999 ล้านบาท เป็น 35,999 ล้านบาท

กองทุนมีนโยบายที่เน้นลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งในไทยและต่างประเทศโดยเฉพาะในสิงคโปร์ อาทิ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) เป็นต้น ซึ่งความน่าสนใจของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก็คือความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดจากอัตราค่าเช่าที่แน่นอน ทำให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดยที่ผ่านมากองทุน K-PROP มีการจ่ายปันผลอย่างต่อเนื่องทุกปี รวม 11 ครั้ง เป็นเงิน 3.62 บาทต่อหน่วย นอกจากนี้ผู้ลงทุนยังมีโอกาสได้รับกำไรส่วนเพิ่มจากแนวโน้มการปรับขึ้นของราคาอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาวอีกด้วย

“สำหรับมุมมองการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ อาจต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุนหลังจากที่สินทรัพย์ประเภทนี้ปรับตัวขึ้นมามากในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งหากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องอาจส่งผลให้ราคาสินทรัพย์มีความผันผวนและเผชิญแรงขายทำกำไรได้ อีกทั้งยังต้องจับตาการเพิ่มทุนของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ทั้งในและต่างประเทศซึ่งอาจเป็นปัจจัยกดดันราคาสินทรัพย์ในระยะสั้นได้ อย่างไรก็ตาม สินทรัพย์ดังกล่าวยังคงมีรายได้จากค่าเช่าที่ได้รับอย่างสม่ำเสมอ จึงเหมาะแก่การลงทุนในระยะยาว ทั้งนี้ กองทุน K-PROP มีอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน 4 ไตรมาสย้อนหลัง (Dividend Yield) อยู่ที่ 15.56% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 62)” น.ส.ธิดาศิริ กล่าว

สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจกองทุน K-PROP สามารถเริ่มต้นลงทุนได้เพียง 500 บาท ผ่าน K-My Funds, K PLUS, ธนาคารกสิกรไทย หรือ ผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน