หุ้น SCB ร่วง 12% ผิดหวังกำไรตั้งสำรองหนี้พุ่ง โบรกฯ แห่หั่นเป้า

HoonSmart.com>> นักลงทุนเทขายหุ้น SCB ร่วง 12% ผิดหวังกำไรไตรมาสปี 62 ตั้งสำรองสูง ฉุดกลุ่มแบงก์ร่วงยกแผง KBANK ลบกว่า 4% BBL ร่วงกว่า 2% ด้านนักวิเคราะห์หั่นเป้ากำไรปี ุ63-64 ฉุดราคาเป้าหมายเหลือ 128 บาท จาก 135 บาท

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เช้าวันที่ 20 ม.ค.2563 ปรับตัวลงแรง ณ เวลา 10.05 น. อยู่ที่ 103 บาท -14 บาท หรือ -11.97% ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 2,055.38 ล้านบาท จากเปิดตลาด 104 บาท และลงไปต่ำสุด 102 บาท

นอกจากนี้นักลงทุนยังเทขายหุ้นกลุ่มแบงก์ตัวอื่น ฉุดราคาลดลงแรง KBANK ลดลง 6.50 บาท หรือ -4.59% มาอยู่ที่ 135 บาท BBL ลดลง 4.00 บาท หรือ -2.60% KTB อยู่ที่ 16.10 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ -1.83%

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า กำไรสุทธิของ SCB ในไตรมาส 4/62 ออกมาต่ำเกินคาดเนื่องจากมีรายการที่ไม่ปกติหลายรายการ (ทั้งด้านบวกและลบ) โดยในด้านบวก รายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 14% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 25% จากงวดปีก่อน แต่ในด้านลบ opex และ NPL กลับเพิ่มขึ้นเกินคาด ทั้งนี้ จากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอในครึ่งแรกของปี 62

SCB แจ้งกำไรสุทธิในไตรมาส 4/62 อยู่ที่ 5.5 พันล้านบาท (รวมกำไรจากการลงทุน 2.3 พันล้านบาท) ลดลงถึง 63% จากไตรมาสก่อนหน้า but -22% จากงวดปีก่อน ต่ำกว่าประมาณการของเรา/consensus ถึง 41%/46% ตามลำดับ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการกันสำรองและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในขณะที่กำไรสุทธิปี 2562 อยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท (+1% จากงวดปีก่อน)

ฝ่ายวิจัยปรับลดประมาณการกำไรปี 63/64 ลง -6%/-4% ด้วยการ 1.) ปรับเพิ่ม credit cost ปี 2563/64 เป็นปีละ 125bps (จากเดิมที่ 115bps) 2.) ลด NIM ลง 10bps เหลือ 3.28% 3.) เพิ่มค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และสัดส่วนต้นทุน/รายได้เป็น 46% (จากเดิม 45%) ทั้งนี้ เนื่องจาก ROE ในช่วงสองปีข้างหน้ายังคงสูงกว่าต้นทุนของเงินทุน ดังนั้น เราจึงใช้ P/BV ที่ 1.0x (คิดเป็น P/E ที่ 11x) ซึ่งจะทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 128 บาท ลดลงจากเดิมที่ 135 บาท แนะนำ ถือ

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ปรับลดคำแนะนำเป็น Fully Valued จากเดิม “ถือ” SCB โดยปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 63F ลง 9% สะท้อนค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่เพิ่ม และการลดลงของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่มากขึ้น ซึ่งทำให้กำไรสุทธิปี 63 คาดจะ -12% จากงวดปีก่อน ปรับลดราคาพื้นฐานเป็น 104 บาท เทียบเท่ากับ P/BV ปี 63F ที่ 0.85 เท่า (-2SD) จากเดิม 128 บาท

บล.ทิสโก้ ปรับมูลค่าที่เหมาะสมของ SCB ลง 27% เป็น 102 บาท และเอาออกจากหุ้นแนะนำ หลังผลประกอบการไตรมาส 4/62 น่าผิดหวัง โดยเราปรับประมาณการปี 63-64 ลง 19 – 10% ตามลำดับ เนื่องจาก OPEX และ Credit Cost ที่เพิ่มขึ้น บล.ทิสโก้ ปรับคำแนะนำลงเป็น “ถือ” และจะมีการปรับประมาณการใหม่อีกครั้งหลังการประชุมนักวิเคราะห์ในวันที่ 27 ม.ค. ที่จะมีการเผยเป้าสำหรับปี 63

ด้านบล.ทรีนีตี้ มอง SCB กำไรไตรมาส 4/62 อ่อนตัวแรงเกินคาดหลังสำรองหนี้พุ่ง ทำให้กำไรออกมาต่ำกว่าที่คาดมาก แต่กำไรจากการดำเนินงานก่อนสำรองใกล้เคียงคาด ปัจจัยกดดันหลักจึงมาจากสำรองหนี้ที่สูงกว่าปกติ จากแนวโน้ม NPL ที่พุ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามต้องติดตามว่า NPL ที่เพิ่มขึ้นมาจากการจัดชั้นเชิงคุณภาพเพื่อรองรับ TFRS9 หรือไม่ ในเบื้องต้นฝ่ายวิคราะห์คาดกำไรปี 63-64 ที่ 40,121 ล้านบาท -1% จากงวดปีก่อน และ 42,525 ล้านบาท +6% จากปีก่อน ตามลำดับ โดยมองภาพรวมปี 63 อาจยังมีปัจจัยกดดันทั้งในด้านสินเชื่อและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย อีกทั้งค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ยังต้องติดตามประเด็นด้านคุณภาพหนี้ว่าในไตรมาส 4/62 ที่ NPL ปรับตัวขึ้นเป็นเพียงการจัดชั้นเชิงคุณภาพหรือไม่ โดยฝ่ายวิคราะห์อาจมีการปรับประมาณการภายหลังการประชุมนักวิเคราะห์อีกครั้งหนึ่ง

และในเบื้องต้นคาดกำไรปี 63 อ่อนตัวเล็กน้อยหลังหมดรายการ One-time โดยคงราคาเป้าหมาย 160 บาท และคงคำแนะนำ “ซื้อ”

“เราคงราคาเป้าหมายสำหรับปี 2563 ที่ 160 บาท อิง PBV 1.3 เท่า พร้อมคงคำแนะนำ “ซื้อ” ทั้งนี้ธนาคารประกาศจ่ายปันผลพิเศษ 0.75 บาท (XD 30 ม.ค. 63) คิดเป็น Dividend Yield ราว 0.64%”บล.ทรีนีตี้ ระบุ

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ปรับลดประมาณการ ลดราคาพื้นฐานเป็น 119 บาท ลดคำแนะนำเป็น “ทยอยซื้อ”: ปรับลดกำไรปี 63 เป็น 38.4 พันล้านบาท ลดลง 5.1% จากงวดปีก่อนจากการลดลงของกำไรจากการขายเงินลงทุน ปรับลดราคาพื้นฐานเป็น 119 บาท ปรับลดคำแนะนำเป็น “ทยอยซื้อ” SCB ประกาศจ่ายปันผลพิเศษ 0.75 บาท/หุ้น

อ่านข่าว

SCB กำไรแค่ 4 หมื่นล้าน ตั้งสำรองเพิ่มปี’62 – KKP ไตรมาส 4 แรงตามคาด 17%