NOBLE ตอกย้ำหุ้นปันผล-เติบโต บุกไทย-ตปท.เป้าท็อปไฟว์อสังหาฯ

HoonSmart.com>>”ธงชัย บุศราพันธ์” บิ๊กโนเบิลฯนำทีมผู้บริหารชุดใหม่โชว์ความสำเร็จปี 62 โกยรายได้ 1.5 หมื่นล้านบาท ตัวเลขดีขึ้นทุกตัว ผงาดติด 1ใน 10 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตั้งเป้า 3 ปีติดท็อปไฟว์ ยอดขาย 1.5-2 หมื่นล้านบาท/ปี รักษาตำแหน่งหุ้นปันผลสูง ส่วนแผนปี 63  รายได้ 1.1-1.2 หมื่นล้านบาท เปิด 7 โครงการมูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาท ไม่รวมรายได้ขายทรัพย์สินเข้ากองทุน เล็งซื้ออสังหาฯที่อังกฤษ เดินหน้าขยายอาณาจักรร่วมกับพันธมิตรกลุ่มฮ่องกงแลนด์- บริษัทยู ซิตี้ของ BTS ธปท.ผ่อนคลายเกณฑ์ LTV  ช่วยด้านจิตวิทยา นักวิเคราะห์มองต่างมุมทั้งบวกและลบ

นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัทโนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) แถลงข่าวว่า ในปี 2562 บริษัทมีผู้ถือหุ้นใหม่ที่เข้ามาบริหารธุรกิจ ซึ่งสามารถสร้างรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์แตะระดับหมื่นล้านบาท ส่งผลให้ NOBLE ก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 10 อันดับแรกของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของไทย (ท็อปเท็น) โดย 9 เดือนแรกมียอดรวม 13,000 ล้านบาท คาดว่าทั้งปีทำได้ถึง 15,000 ล้านบาท และยังมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น(ROE) เพิ่มเป็นมากกว่า 30% มีการสร้างแบรนด์ใหม่ พร้อมจ่ายเงินปันผลสูงมาก รวม 2 ครั้งคือหุ้นละ 6.90 บาทและ 5.20 บาท

สำหรับแผนในปี 2536 ก็ยังคงนโยบายการจ่ายเงินปันผลสูง และการเติบโตสูง ตั้งเป้ารายได้รวมที่ 11,000-12,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีเงินในมือกว่า 4,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังวางแผน 3 ปีที่จะใหญ่ติด 1 ใน5 (ท็อปไฟร์)ของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยด้วย โดยมีรายได้รวม 11,000-14,000 ล้านบาท ยอดขาย 15,000-20,000 ล้านบาท เปิดโครงการใหม่อย่างสม่ำเสมอปีละ 6-7 โครงการ และต่างประเทศ 1 โครงการ รักษาอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ที่ระดับ 17-18% เพื่อผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้น NOBLE เป็นหุ้นปันผล รักษาระดับอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ให้อยู่ที่ระดับ 1.5-1.8 เท่า

“ปีที่ผ่านมา รายได้สูงถึง 15,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งประมาณ 6,000 ล้านบาทมาจากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างรายได้ประจำมาลงทุนสร้างคอนโดมิเนียมเพื่อขาย ส่วนรายได้ในปีนี้ที่ 11,000-12,000 ล้านบาท ยังไม่รวมรายได้จากการขายทรัพย์สินเข้ากองทุน ส่วนการลงทุนในต่างประเทศ กำลังมองหาโครงการในอังกฤษที่กำลังก่อสร้าง ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาท”นายธงชัยกล่าว

ในปี 2563 บริษัทรุกตลาดคอนโดมิเนียมครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมขยายการลงทุนและฐานลูกค้าเพิ่มทั้งในและต่างประเทศ ตั้งเป้าเปิด 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวมมากกว่า 25,000 ล้านบาท พร้อมเป้ายอดพรีเซลกว่า 12,000 ล้านบาท ล่าสุดบริษัทมีรายได้รอรับรู้ ( (Backlog) ประมาณ 17,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในช่วง 2-3 ปีจากนี้ ส่วนในปีนี้ประมาณ 6,000 ล้านบาท ไม่รวมสินค้าที่อยู่ระหว่างการขายและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง รวม 18,000 ล้านบาท จาก 12 โครงการ

นายธงชัยกล่าวว่า ในปี 2562 บริษัทได้ขายหุ้นให้กับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) สัดส่วน 9.9% ซึ่งเป็นพันธมิตรที่มีความแข็งแรงทั้งทางด้านเงินทุน และธุรกิจ โดย 1 ใน 7 โครงการที่จะเปิดใหม่  จะร่วมกับบริษัท ยู ซิตี้ (U) ในเครือบีทีเอส และร่วมทุนกับกลุ่มฮ่องกงแลนด์ 1 โครงการระดับซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ เพื่อพัฒนาที่ดินขนาด 3 ไร่บนถนนวิทยุ ในอนาคตยังมีโอกาสจะพัฒนาโครงการร่วมกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง และยังมีแผนจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด แคมเปญต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นยอดขายด้วย

ส่วนแผนการลงทุน ตั้งงบไว้ประมาณ 7,000-7,500 ล้านบาท แบ่งเป็นการซื้อที่ดิน ประมาณ 1,500 ล้านบาท และใช้เป็นงบก่อสร้าง ประมาณ 6,000-6,500 ล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนมาจากการกู้ยืมสถาบันการเงิน, กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน และการออกหุ้นกู้ ซึ่งในปีนี้บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ประมาณ 2,500 ล้านบาท เพื่อชำระคืนหุ้นกู้ชุดเดิมที่จะครบกำหนดในเดือนพ.ค. และในเดือนพ.ย. ช่วยลดต้นทุนทางการเงิน

นายธงชัยกล่าวว่า กรณีธปท.ผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ไม่มีผลต่อบริษัท  แต่มีผลทางจิตวิทยาโดยรวม ทำให้มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น

นายแฟรงค์ ฟง คึ่น เหลียง รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม NOBLE กล่าวว่า ในปี 2562 บริษัทสามารถสร้างยอดขายจากต่างประเทศประมาณ 3,500 ล้านบาท คิดเป็นยอดขายประมาณ 50% ของทั้งหมด คาดว่าในปีนี้จะเพิ่มเป็น 7,000 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 18% ของส่วนแบ่งตลาดต่างประเทศในช่วงราคา 80,000-250,000 บาทต่อตารางเมตร โดยมีเครือข่ายที่เข้าถึงลูกค้ากว่า 470 ช่องทาง โดยเฉพาะตลาดในประเทศจีนที่เป็นตลาดหลักที่สามารถขยายฐานการตลาดครองคลุมกว่า 21 เมือง

ด้านนายอรรถวิทย์ เฉลิมทรัพยากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน NOBLE กล่าวว่า ในปี 2563 บริษัทจะขายทรัพย์สินเข้ากองทุน ประมาณ 1,000 ล้านบาท มีมาร์จิ้นสูง ส่วนโครงการที่ลงทุนในปีนี้ เช่น โครงการระดับซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ บนถนนวิทยุ เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัทฯ และกลุ่มฮ่องกงแลนด์ ฝ่ายละ 50% มูลค่าโครงการ 1,057 ล้านบาท สามารถรับรายได้ทันทีที่โอน ในไตรมาส 1

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน กล่าวถึงการขยายฐานผู้ถือหุ้นว่า  บริษัทมีแผนที่จะโรดโชว์ที่สิงคโปร์ ในเดือนหน้า และที่ฮ่องกง ทางด้านแหล่งเงินทุน บริษัทไม่ได้ใช้แหล่งเงินระยะสั้นผ่านบี/อีแล้ว มีการใช้แหล่งเงินระยะปานกลางและยาว เช่น หุ้นกู้อายุ 3 ปี ปัจจุบันมีหนี้ประมาณ 10,000 ล้านบาท

อ่านประกอบ

ธปท.ผ่อนเกณฑ์ LTV ช่วยคนกู้ซื้อบ้านอยู่จริง โบรกฯ มองต่างมุมกลุ่มอสังหาฯ