TU ปี 62 กำไร 3.8 พันลบ. โต 17% ปันผล 0.22 บาท XD 2 มี.ค.

HoonSmart.com>> “ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป” ปี 62 กำไรสุทธิ 3,816 ล้านบาท โต 17% จากปีก่อน ด้านกำไรขั้นต้นทะลุ 2 หมื่นล้าน หนุน EBITDA ทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์แตะ 1.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.2% บาทแข็งฉุดยอดขายลด 5.3% บอร์ดไฟเขียวปันผลงวดครึ่งปีหลัง 0.22 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD 2 มี.ค.63 บล.หยวนต้า คาดไตรมาส 1/63 แนวโน้มสดใส

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2562 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 กำไรสุทธิ 3,815.88 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.80 บาท เพิ่มขึ้น 17.19% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 3,256.21 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.68 บาท

บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ 5,218 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีความสามารถในการทำกำไรเข้มแข็งขึ้น ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเติบโต 6.4% คิดเป็นเงินมากกว่า 2 หมื่นล้านบาท กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมและค่าจัดจำหน่าย (EBITDA) ทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 9.2% มื่อเทียบกับปี 2561 สะท้อนถึงการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยด้านความสามารถในการทำกำไร อีกทั้งการลงทุนและบริษัทในเครือมีผลงานดีขึ้นสม่ำเสมอ ยอดขายลดลง 5.3% อยู่ที่ระดับ 126,270 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น

ในปี 2562 ปริมาณการขายเติบโต 1.9% เมื่อเทียบกับปี 2561 เป็นผลจากธุรกิจอาหารทะเลแช่เย็นและแช่แข็งและธุรกิจที่เกี่ยวข้องที่มีปริมาณการขายเติบโตขึ้น 12.8 เปอร์เซ็นต์ และธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่ามีปริมาณการขายเติบโตขึ้น 3.2% กำไรจากการดำเนินงานในปี 2562 เติบโตขึ้น 20.8% อยู่ที่ 5,642 ล้านบาท

สำหรับสัดส่วนของยอดขายตามภูมิภาค ยอดขายจากทวีปอเมริกาเหนือมีสัดส่วนถึง 41% ยอดขายจากทวีปยุโรป 28% ยอดขายจากประเทศไทย 12% และตลาดอื่นๆ ได้แก่ เอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง แอฟริกา และอเมริกาใต้ 18%

“ไทยยูเนี่ยนยังคงมุ่งมั่นในการทำกำไรจากทั้งการดำเนินงานของธุรกิจหลัก ธุรกิจเพิ่มมูลค่าใหม่ๆ และการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่มีอยู่ เราภูมิใจกับผลงานและความเติบโตของบริษัทในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ผมมั่นใจว่าไทยยูเนี่ยนจะก้าวต่อไปในทศวรรษใหม่นี้ในฐานะผู้นำด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารทะเล อีกทั้งยังลงทุนต่อเนื่องในด้านนวัตกรรม และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคทั่วโลก และสานต่อพันธกิจในการสร้าง “สุขภาพที่ดี และท้องทะเลที่สมบูรณ์” ต่อไป” นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป กล่าว

ด้านอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนลดลงอยู่ที่ระดับ 1.07 เท่า ลดลงจาก 1.40 เท่าในปี 2561 อันเป็นผลจากการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ที่มีลักษณะคล้ายทุนมูลค่า 6 พันล้านบาทในไตรมาสสุดท้ายของปี ประกอบกับการลดหนี้สินจากกระแสเงินสดอิสระจำนวน 3 พันล้านบาท

สำหรับปี 2562 ไทยยูเนี่ยนจะปันผล 0.47 บาทต่อหุ้น กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 17.2% เมื่อเทียบกับปี 2561 โดยในปี 2562 ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.25 บาทต่อหุ้น

คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเมื่อวันที่ 17 ก.พ.2563 อนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผลดำเนินงานวันที่ 1 ก.ค. 2562-31 ธ.ค.2562 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.22 บาทต่อหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.22 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 3 มี.ค. 2563 ขึ้น XD วันที่ 2 มี.ค.2563 และจ่ายปันผลวันที่ 22 เม.ย.2563

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า TU กำไรปกติในงวดไตรมาส 4/2562 ราว 1,000-1,050 ล้านบาท ใกล้เคียงคาด มองว่าผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดแล้ว มีมุมมองบวกต่อแนวโน้มกำไรไตรมาส 1/2563 คาดโตสูงทั้งจากไตรมาสก่อนหน้าและงวดปีก่อน บล.หยวนต้ามีโอกาสปรับประมานการขึ้น แนะนำ เก็งกำไร

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า TU กำไรสุทธิไตรมาส 4/2562 ต่ำคาดเล็กน้อยราว 5% เพราะบาทแข็ง ขณะที่ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 3,816 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อน ถ้าไม่รวมค่าใช้จ่ายยอมมความลูกค้าในสหรัฐฯจะมีกำไรปกติ 4,386 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน

นอกจากนี้การจ่ายปันผลงวดครึ่งหลังของปี 2561 หุ้นละ 0.22 บาท อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 1.4% โดยบล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดกำไรจะฟื้นตั้งแต่ไตรมาส 1/2563 เพราะราคาปลากลับมาฟื้นและบาทอ่อน ยังคงเป้า 17 บาท แนะนำซื้อ